2 กุมภาพันธ์ 2565 – นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศด้านการขับเคลื่อนและบริหารจัดการคาร์บอนเครดิตจากมาตรการการดูดกลับก๊าซเรือนกระจกของประเทศ ครั้งที่ 1/2565 โดยมี นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงฯ ร่วมด้วยคณะอนุกรรมการจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร การเคหะแห่งชาติ กรมพัฒนาที่ดิน สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กรมส่งเสริมสหกรณ์ การยางแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม ชั้น 17 อาคารกระทรวงฯ และผ่านระบบการประชุมทางไกล (VDO Conference )
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส. ได้ขอความร่วมมือทุกหน่วยงานเร่งสร้างความเข้าใจกับบุคลากรและพี่น้องประชาชน เกี่ยวกับแนวคิดคาร์บอนเครดิต และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมทั้งเชิญชวนพี่น้องประชาชนและชุมชนร่วมกันปลูกป่าเพื่อสร้างรายได้ระยะยาวในอนาคตจากการซื้อขายคาร์บอนเครดิต โดยเชื่อว่า มูลค่าคาร์บอนเครดิตจะสูงขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้แน่นอน พร้อมมอบหมายให้กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ทบทวนศักยภาพการดูดกลับก๊าซเรือนกระจกของป่า แต่ละประเภทให้เป็นปัจจุบันมากที่สุด ตลอดจนจัดทำหลักเกณฑ์ในการจัดสรรพื้นที่การปลูก อนุรักษ์ และฟื้นฟูป่าไม้ ให้แก่หน่วยงานภายนอก รวมทั้งแนวทางการแบ่งปันผลประโยชน์ระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชนในพื้นที่ ต่อไป
นอกจากนี้ ยังได้ขอความร่วมมือทุกหน่วยงานเร่งสำรวจพื้นที่เป้าหมายสำหรับการกักเก็บคาร์บอนโดยเร็ว พร้อมทั้งจัดส่งข้อมูลพื้นที่ที่มีความพร้อมดำเนินการ ในปี พ.ศ.2565 และแผนการดำเนินงาน ให้กับฝ่ายเลขานุการฯ ภายในวันที่ 18 ก.พ. 2565 ทั้งนี้ เพื่อมุ่งสู่การบรรลุเป้าหมายการดูดกลับก๊าซเรือนกระจกในภาคป่าไม้และการใช้ประโยชน์ที่ดิน ภายใต้ยุทธศาสตร์ระยะยาวในการพัฒนาแบบปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำของประเทศไทย (Thailand’s Long-Term Low Greenhouse Gas Emission development Strategy) ที่คาดว่าจะสามารถดูดกลับก๊าซเรือนกระจกได้ 120 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ภายในปี 2580 โดยในปัจจุบัน มีพื้นที่เป้าหมายของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ ที่มีศักยภาพ จำนวนมากกว่า 1.1 ล้านไร่ และมีความพร้อมดำเนินการ ในปี 2565 มากกว่า 6 แสนไร่ ซึ่งคาดว่าจะสามารถดูดกลับก๊าซเรือนกระจกได้ประมาณ 181,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
ที่มา: กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม