คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานมีมติให้ปรับลดอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (ค่าเอฟที) สำหรับการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าในช่วงเดือน ม.ค.-เม.ย. 2564 รวม 4 เดือน เพื่อช่วยบรรเทาค่าครองชีพให้กับประชาชน ส่งผลให้จ่ายค่าไฟฟ้าถูกลงอีก 2.89 สต./หน่วย หรืออยู่ที่ 3.61 บาท/หน่วย
นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงาน คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผย สำนักงาน กกพ. มีมติให้ปรับลดอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (เอฟที) สำหรับการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าในช่วงต้นปี 2564 ตั้งแต่เดือนมกราคม-เมษายน เหลือ -15.32 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งเป็นการปรับลดลงจากการเรียกเก็บงวดก่อนหน้าในช่วงเดือนกันยายน–ธันวาคม 2563 ที่ -12.43 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ผู้ใช้ไฟฟ้าจ่ายค่าไฟฟ้าถูกลง 2.89 สตางค์ต่อหน่วย จากที่ก่อนหน้านี้ สำนักงาน กกพ. ได้บริหารจัดการและตรึงค่าเอฟที เพื่อช่วยบรรเทาค่าครองชีพให้กับประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง
ส่วนแนวโน้มค่าไฟฟ้าในช่วงกลางปีและปลายปี 2564 ตั้งแต่งวด พ.ค.-ส.ค. และงวด ก.ย.-ธ.ค. มีทิศทางจะปรับเพิ่มขึ้นตามทิศทางราคาก๊าซธรรมชาติที่ปรับเพิ่มขึ้น เพื่อเป็นการดูแลค่าไฟฟ้าตลอดทั้งปี 2564 ให้มีเสถียรภาพ จึงมีมติจะเก็บเงินบริหารจัดการค่าไฟฟ้าที่มีอยู่ประมาณ 4,219 ล้านบาทมาดูแลค่าเอฟทีใน 2 งวดที่เหลือของปี 2564 และยังมีเงินจากการปรับลดอัตราส่วนผลตอบแทนต่อเงินลงทุนของ 3 การไฟฟ้า เฉลี่ยลดลงประมาณ 10% ในปีงบประมาณ 2563 ซึ่งคาดว่าจะมีวงเงินในส่วนนี้ประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท เพื่อใช้ดูแลค่าไฟฟ้าในปี 2564 แต่ทั้งนี้ยังต้องพิจารณารายได้ของ 3 การไฟฟ้าในปี 2563 ที่ชัดเจนอีกครั้ง ซึ่งจะส่งผลให้ กกพ. มีเงินในมือเพื่อดูแลค่าไฟในปีหน้ารวมประมาณ 6 – 7 พันล้านบาท