บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) เผยแผนรับมือผลกระทบสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ขยายวงกว้าง อาจส่งผลให้การความต้องการใช้พลังงานชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญ ประกอบกับสถานการณ์สงครามราคาน้ำมันที่ไม่แน่นอน ทำให้ราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและปิโตรเคมีมีความผันผวน ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจของกลุ่ม ปตท. ในปีนี้
โดย ปตท. ได้มีการตั้งสมมุติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบ ปี 2563 ไว้ที่ระดับ 30-40 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และคาดการณ์ว่าความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติ ราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี และค่าการกลั่นจะลดลงจากปีที่แล้ว พร้อมทั้งได้ปรับตัวบริหารสภาพคล่อง ตามมาตรการ “ลด-ละ-เลื่อน” โดยคาดว่าทั้งกลุ่ม ปตท. จะลดงบลงทุนในปีนี้ได้ราว 10-15%
ด้านผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปี 2563 ขาดทุนสุทธิ 1,554 ล้านบาท หลังมีผลขาดทุนสต๊อกจากราคาน้ำมันดิบไตรมาสแรกที่ร่วงแรง และกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทในกลุ่มโรงกลั่นและปิโตรเคมี ขณะที่กลุ่มธุรกิจก๊าซฯ มีผลการดำเนินงานลดลงจากราคาและปริมาณการขายที่ลดลง ส่วนธุรกิจน้ำมันมีผลขาดทุนสต็อกและปริมาณขายที่ลดลง