‘บางจาก’ เดินหน้าร่วมทุนสตาร์ตอัพ ‘เอนเนเวท’ บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีการผลิตลิเทียมแบตเตอรี่สำหรับใช้ในรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อผลิตแบตเตอรี่สำหรับรถไฟฟ้า ที่สามารถชาร์จได้เร็วกว่าการชาร์จทั่วไปถึง 10 เท่า และวิ่งได้ไกลกว่าถึง 30% ต่อยอดเทคโนโลยีให้เป็นสถานีชาร์จรถไฟฟ้าในอนาคต ที่สามารถชาร์จได้รวดเร็วเทียบเท่ากับการเติมน้ำมัน
นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงการลงทุนธุรกิจสตาร์ตอัพของสถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจ (บีไอไอซี) ที่มีแผนลงทุนกว่า 300 ล้านบาท เพื่อต่อยอดธุรกิจด้านพลังงานไฟฟ้าสีเขียวผลิตภัณฑ์ชีวภาพและเทคโนโลยีดิจิทัลของบางจาก โดยล่าสุดได้คัดเลือกธุรกิจสตาร์ตอัพรายใหม่เพิ่มเติม 2 ราย คือ บริษัท เจลทอร์ และบริษัท เอนเนเวท อยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
โดย บริษัท เจลทอร์ นั้นมีเทคโนโลยีชีวภาพสังเคราะห์คอลลาเจน เน้นการผลิตคอลลาเจนใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์บำรุงผิวพรรณ ที่มีคุณสมบัติที่ดีกว่าที่ขายกันอยู่ทั่วไป เช่น ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น มีกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ส่วน บริษัท เอนเนเวท เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงและเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีการผลิตลิเทียมแบตเตอรี่สำหรับใช้ในรถยนต์ไฟฟ้า ด้วยนวัตกรรมที่ล้ำสมัยทำให้สามารถรองรับการชาร์จพลังงานได้รวดเร็วขึ้น 10 เท่า เมื่อเทียบกับการชาร์จทั่วๆไป ซึ่งในอนาคตสามารถต่อยอดเทคโนโลยีให้เป็นสถานีชาร์จรถไฟฟ้า EV Charging Stations ที่ชาร์จได้รวดเร็วเทียบเท่ากับการเติมน้ำมัน และติดตั้งได้ในทุกพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นที่บ้านหรือบนถนนระหว่างทางขับขี่สู่จุดหมายปลายทาง ในขณะเดียวกันก็มีความจุพลังงานมากขึ้นทำให้รถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) วิ่งได้ไกลขึ้นถึง 30% อีกทั้งยังทนต่อสภาพอากาศได้ต่ำถึง-40 องศาเซลเซียส และมีความปลอดภัยมากขึ้นด้วย
โดยบีไอไอซี มองว่าเทคโนโลยีดังกล่าวสามารถนำมาต่อยอดเข้ากับธุรกิจพลังงานไฟฟ้าสีเขียว รวมทั้งเอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจการผลิตรถอีวีในอนาคต นอกจากนี้ เอนเนเวท ยังเป็นเจ้าของสิทธิบัตรอีกกว่า 80 รายการ ทั้งที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นที่เรียบร้อยแล้วและที่อยู่ระหว่างรอจดทะเบียน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในด้านการสร้างสรรค์การพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทำให้เกิดประโยชน์ต่าง ๆ
นอกจากการลงทุนกับสตาร์ตอัพจากสหรัฐฯ ทั้ง 2 รายล่าสุดแล้ว ในปีที่ผ่านมา บีไอไอซี ได้ลงทุนในสตาร์ตอัพไปแล้ว 2 ราย คือ บริษัท เซ็มทีฟ จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านกังหันลมผลิตไฟฟ้า และบริษัท โบนูโมส จำกัด ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการผลิตน้ำตาลเพื่อสุขภาพจากวัตถุดิบพืชในกลุ่มที่มีปริมาณแป้งสูง นับเป็นเทคโนโลยีที่มีศักยภาพช่วยเพิ่มมูลค่าสินค้าทางการเกษตร สามารถต่อยอดธุรกิจชีวภาพของบางจากได้
Source : ภาพ bangchak.co.th