จากการติดตั้งโซลาร์เซลล์ที่เป็นพลังงานแสงอาทิตย์ ถือเป็นอีกหนึ่ง ของการอนุรักษ์ด้านพลังงาน ซึ่งขณะนี้ทั่วโลกมีจุดมุ่งหมายเพื่อร่วมกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ลดการใช้พลังงาน และช่วยลดต้นทุนให้แก่องค์กร สะท้อนให้เห็นว่าทุกภาคส่วนอุตสาหกรรม และแม้แต่หน่วยงานภาครัฐให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน
บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้นำธุรกิจผลิตและจำหน่าย ไฟฟ้าจากทั้งพลังงานเชื้อเพลิงทั่วไปและพลังงานหมุนเวียนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แห่งใหม่ที่ประเทศญี่ปุ่น คือ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ คุโรคาวะ พร้อมปรับเป้าหมายกำลังผลิตไฟฟ้าเป็น 5,300 เมกะวัตต์ภายในปี 2568 โดยแบ่งเป็นพลังงานเชื้อเพลิงทั่วไป 4,500 เมกะวัตต์เทียบเท่า และพลังงานหมุนเวียน อีก 800 เมกะวัตต์
โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์คุโรคาวะ ตั้งอยู่ที่จังหวัดมิยางิ ประเทศญี่ปุ่น กำลังผลิต 18.9 เมกะวัตต์ เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ได้รับการสนับสนุน จากสถาบันการเงินท้องถิ่นในการพัฒนาโครงการฯ และมีราคารับซื้อไฟฟ้าแบบ Feed-in-Tariff (FIT) 36 เยนต่อกิโลวัตต์ จากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโรงไฟฟ้าดังกล่าว ทำให้ปัจจุบันบ้านปู เพาเวอร์มีกำลังผลิตรวมเพิ่มขึ้นเป็น 2,894 เมกะวัตต์เทียบเท่า โดยมาจากโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์แล้ว 2,189 เมกะวัตต์เทียบเท่า และอีก 705 เมกะวัตต์อยู่ในระหว่างการก่อสร้างและพัฒนา ซึ่งโครงการโรงไฟฟ้าดังกล่าวจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ภายในปี 2563 นี้ นอกจากนี้ยังมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่นอีกจำนวน 4 แห่ง รวม 57 เมกะวัตต์
สำหรับเป้าหมายใหม่ที่บ้านปู เพาเวอร์ได้วางเป้าหมายไว้คือการขยายกำลังผลิตไฟฟ้าแห่งใหม่ในญี่ปุ่นให้ถึง 5,300 เมกะวัตต์ ภายในปี 2568 โดยในส่วนแรกเป็นกำลังผลิตไฟฟ้าจากพลังงานเชื้อเพลิงทั่วไป (Base-Load Power Plant) รวม 4,500 เมกะวัตต์เทียบเท่า ซึ่งมาจากโรงไฟฟ้าและโครงการโรงไฟฟ้าที่บริษัทฯ มีอยู่ ณ ปัจจุบัน ที่ใช้เทคโนโลยีระบบ Ultra-Super Critical (USC) ที่มีประสิทธิภาพ202099สูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (High Efficiency, Low Emissions : HELE) ขณะเดียวกัน ส่วนที่สองนี้ เป็นกำลังผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนรวม 800 เมกะวัตต์จากการถือหุ้นร้อยละ 50 ผ่าน บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด (Banpu NEXT) ซึ่งเป็นบริษัทใหม่ของกลุ่มบ้านปูที่จะเข้ามาบริหารจัดการธุรกิจพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีพลังงาน ที่ปัจจุบันมีกำลังผลิตอยู่แล้ว 406.7 เมกะวัตต์ การเข้าถือหุ้นในบ้านปู เน็กซ์นั้น นอกจากจะเพิ่มการเติบโตของกำลังการผลิตแล้ว ยังแสดงให้เห็นว่าแนวนโยบายด้านพลังงานโดยเฉพาะการติดตั้งโซลาร์ ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดของกลุ่มบ้านปู สามารถเติบโตทางธุรกิจด้วยพอร์ตการลงทุนที่หลากหลายมากขึ้น เช่น เทคโนโลยีด้านพลังงาน และระบบพลังงานอัจฉริยะ เป็นต้น
สุธี สุขเรือน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บ้านปู เพาเวอร์พร้อมเดินหน้าตามหลักความสมดุลด้านพลังงานของโลกและสอดคล้องกับทิศทางการเติบโตในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ด้วยความสามารถในการบริหารกระแสเงินสดอย่างแข็งแกร่ง ความสามารถในการบริหารพอร์ตลงทุนและแสวงหาโอกาสใหม่ๆ ในประเทศที่มีโอกาสทางธุรกิจสูง ผนวกกับการผนึกพลัง ร่วมภายในและการปรับโครงสร้างใหม่ของกลุ่มบ้านปู ทำให้บ้านปู เพาเวอร์ มีขีดความสามารถเพิ่มขึ้นในการดำเนินธุรกิจไฟฟ้าและเทคโนโลยีด้านพลังงาน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงมั่นใจว่าจะสามารถบรรลุเป้าหมาย 5,300 เมกะวัตต์ ในปี 2568 ได้สำเร็จ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงแก่ผู้มีส่วนได้เสียตามที่เรามุ่งมั่น มาโดยตลอด”
แนวนโยบายของกลุ่มบ้านปู กำลังมองหาโอกาสในประเทศต่างๆ ต่อไป เช่น เวียดนาม และประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมไปถึงโครงการ โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติในประเทศสหรัฐอเมริกาอีกด้วย จึงเรียกได้ว่ากลุ่มบ้านปู ซึ่งถือเป็นผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย ที่ครอบคลุมประเทศไทย สปป.ลาว จีน ญี่ปุ่น และเวียดนาม เป็นอีกหนึ่งองค์กรที่จะพัฒนาศักยภาพในการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อการผลิตไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่ไปกับการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงที่มีความปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตามกลยุทธ์ Greener & Smarter