บจม. เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) ประกาศเพิ่มเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals: SDGs) เป้าหมายที่ 3 “การมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี” (Good Health and Wellbeing) เป็นเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนใหม่ในปีพ.ศ. 2564 ซึ่งจะเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับ 6 เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนเดิมที่บริษัทได้ตั้งไว้เมื่อปีพ.ศ. 2561
ในช่วงการระบาดของโควิด-19 สุขภาพของพนักงานและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายถือเป็นสิ่งสำคัญสูงสุดสำหรับบริษัทเดลต้า ประเทศไทย ในปีพ.ศ. 2564 นี้ เดลต้าได้ให้บริการตรวจและฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายให้แก่พนักงานและแรงงานจ้างเหมากว่า 90%
โดยก่อนหน้านี้ เดลต้ายังสนับสนุนประเทศไทยในการต่อสู้กับโควิด-19 ด้วยการบริจาคพัดลมเดลต้าประสิทธิภาพสูง (DC brushless blowers) จำนวน 10,500 เครื่อง เพื่อสนับสนุนการพัฒนาและผลิตชุดปลอดเชื้อความดันบวกและหน้ากากป้องกันเชื้อโรคแบบคลุมศีรษะพร้อมชุดกรองอากาศประสิทธิภาพสูง (Powered Air Purifying Respirator หรือ PAPR) รวมถึง ชุดป้องกันส่วนบุคคลของบุคลากรการแพทย์ (Personal Protective Equipment หรือ PPE) ที่ปฏิบัติงานอยู่แนวหน้าใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด-19 และในปีนี้ เปิดโรงงานแห่งใหม่เพื่อเป็นศูนย์ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 และโรงพยาบาลภาคสนามสำหรับพนักงานของเดลต้าอีกด้วย
เดลต้ามุ่งมั่นในการสร้างเสริมสุขภาวะในองค์กรให้เป็นไปตามมาตรฐาน ISO45001 และได้รับความร่วมมือจากหุ้นส่วนธุรกิจในการลงนามในข้อตกลงหลักจรรยาบรรณแห่งพันธมิตรธุรกิจผู้มีความรับผิดชอบ (Responsible Business Alliance : RBA) ในปีพ.ศ. 2564 โรงงานแห่งใหม่ซึ่งเป็นโรงที่ 7 ของเดลต้าในนิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์ได้รับการรับรอง Gold Certification จาก LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) ในหมวดของอาคารก่อสร้างใหม่ (New Construction) เดลต้า ประเทศไทย ได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกในดัชนีความยั่งยืนระดับโลก “Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI” ประจำปี 2564 เนื่องจากผลงานอันโดดเด่นในการบริหารจัดการความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลของบริษัท
เมื่อโลกก้าวเข้าสู่ยุค New Normal เดลต้ามุ่งมั่นอย่างยิ่งที่จะจัดการกับความเสี่ยงอันเกิดจากการแพร่ระบาดทั่วโลก และดำเนินการเพื่อส่งเสริมสุขภาพและสวัสดิภาพของพนักงานจำนวนมากของเรา รวมถึงชุมชนท้องถิ่นในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง การเพิ่มเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนเป้าหมายที่ 3 “การมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี” ของคณะกรรมการความยั่งยืนของเดลต้า ประเทศไทยในปีพ.ศ. 2564 นี้ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพกลยุทธ์ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนของบริษัทและผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนในระยะยาว
องค์การสหประชาชาติได้จัดตั้งเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ขึ้นตั้งแต่ปีพ.ศ. 2558 ประกอบไปด้วยเป้าหมายระดับโลกที่แต่ละเป้าหมายต่างก็มีความเชื่อมโยงระหว่างกันทั้งหมด 17 เป้าหมาย ซึ่งเป้าหมายเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อเป็น “พิมพ์เขียวสำหรับการสร้างอนาคตที่ดีกว่าและยั่งยืนยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน” โดยตั้งเป้าในการบรรลุเป้าหมายให้ได้ภายในปีพ.ศ. 2573
นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2564 เป็นต้นไป เดลต้า ประเทศไทย ตั้งเป้าที่จะบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน 7 ข้อ ดังต่อไปนี้:
เป้าหมายที่ 3: การมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี
เป้าหมายที่ 4: การศึกษาที่เท่าเทียม
เป้าหมายที่ 7: พลังงานสะอาดที่ทุกคนเข้าถึงได้
เป้าหมายที่ 9: อุตสาหกรรม นวัตกรรม และโครงสร้างพื้นฐาน
เป้าหมายที่ 12: แผนการบริโภคและพัฒนาที่ยั่งยืน
เป้าหมายที่ 13: การรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ
เป้าหมายที่ 17: ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
เดลต้าได้ดำเนินโครงการที่หลากหลายมาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้องค์กรสามารถบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนได้อย่างเป็นรูปธรรม อาทิเช่นโครงการ Delta Industrial Automation Academy การดำเนินงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก คณะกรรมการความยั่งยืนของเราเลือกเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนใหม่สำหรับเดลต้าโดยยึดประเด็นที่มีความสำคัญต่อบริษัทมากที่สุด ซึ่งได้มาจากการสำรวจผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัทโดยประกอบกับการพิจารณาในแง่มุมทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน
นับเป็นปีที่สามที่เดลต้า ประเทศไทย ได้ให้คำมั่นสัญญาอย่างเป็นทางการต่อการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนโดยองค์การสหประชาชาติ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์และการรายงานการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์กร ทั้งนี้ ในปีพ.ศ. 2561 เดลต้าให้ความสำคัญต่อการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่สำคัญต่อความยั่งยืนขององค์กร 6 ข้อ จากทั้งหมด 9 ข้อในปีพ.ศ. 2560
ความมุ่งมั่นของเดลต้าต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนโดยองค์การสหประชาชาติ (SDGs) นั้น ช่วยให้บริษัทมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทั้งด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาล พร้อมทั้งบรรลุคำมั่นสัญญาของบริษัทที่ว่า: Smarter. Greener. Together.