กกพ. เปิดเผยความคืบหน้านโยบายการใช้ไฟฟ้าฟรี หรือไฟฟ้าราคาถูกสำหรับชุมชนรอบโรงไฟฟ้า เนื่องเป็นกลุ่มคนเสียสละอยู่ใกล้พื้นที่รอบโรงไฟฟ้า โดยอยู่ในระหว่างการศึกษารายละเอียด เพื่อกำหนดการใช้เงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้าที่ปัจจุบันมีเงินอยู่ในกองทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท/ปี ซึ่งจะต้องจัดสรรออกมาว่าจะสนับสนุนจำนวนเท่าใด รวมถึงพื้นที่ที่จะได้รับการสนับสนุน คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 1-2 เดือนนี้
นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้านโยบายส่งเสริมโรงไฟฟ้าชุมชน ภายหลังเปิดตัวโครงการ “กกพ. กำกับความสุขให้คนไทย” เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2562 ว่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างกำหนดหลักเกณฑ์การตั้งโรงไฟฟ้าชุมชนในแต่ละพื้นที่ให้มีความเหมาะสม โดย กกพ. เตรียมสำรวจพื้นที่การใช้ไฟฟ้าทั่วประเทศ เพื่อขยายพื้นที่ให้บริการไฟฟ้าให้ครอบคลุม เบื้องต้นจะตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล พื้นที่ที่ขาดแคลนไฟฟ้า พื้นที่ที่ไม่มีความมั่นคงทางพลังงาน รวมถึงพื้นที่ที่มีความต้องการใช้งานพลังงานที่เติบโตสูงในอนาคต โดยเป็นพื้นที่ที่เชื้อเพลิงมีความพร้อม ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการก่อสร้างสายส่งและช่วยสร้างรายได้จากการใช้วัตถุดิบตั้งต้นจากในพื้นที่ เช่น เชื้อเพลิงชีวมวล และชีวภาพ
ส่วนรูปแบบการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้านั้น ในเบื้องต้นการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้อนุมัติหลักการในเบื้องต้นแล้ว และจะเตรียมนำเสนอขออนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในช่วงกลางเดือนกันยายนนี้ ก่อนที่จะจัดทำรายละเอียดโครงการต่อไป
โดยโมเดลโรงไฟฟ้าชุมชนในเบื้องต้นนั้น คาดว่าจะเป็นความร่วมมือระหว่างการไฟฟ้าในพื้นที่กับเอกชน และรัฐวิสาหกิจชุมชนหรือสหกรณ์ในพื้นที่ร่วมกันออกแบบและจัดหาแหล่งเงินทุน แต่อย่างไรก็ตาม หากพื้นที่ใดที่ไม่มีแห่งเงินทุน ก็อาจจะใช้เงินกองทุนอนุรักษ์พลังงานและกองทุนพัฒนาไฟฟ้าเข้าไปช่วยสนับสนุนส่วนหนึ่ง โดยคาดว่าจะสามารถกำหนดพื้นที่นำร่องโรงไฟฟ้าชุมชนต้นแบบได้ 1 แห่ง ภายในเดือนธันวาคม 2562