
สมาคมไฟฟ้าและพลังงาน IEEE (ประเทศไทย) หรือ IEEE Power & Energy Society – Thailand (IEEE PES-Thailand) จัดงาน IEEE PES Dinner Talk ต่อเนื่องเป็นปีที่ 20 มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลและแลกเปลี่ยนมุมมองด้านนโยบายและแนวทางการพัฒนาด้านพลังงานและอุตสาหกรรมไฟฟ้าไทย ซึ่งเกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พลังงานของประเทศ โดยได้รับเกียรติจาก ดร.นรินทร์ เผ่าวณิช ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และนายกสมาคม IEEE PES-Thailand กล่าวเปิดงาน ทั้งนี้ได้มีการปาฐถาพิเศษ เรื่อง “นโยบาย Quick Big Win ด้านพลังงาน” โดย อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการการกระทรวงพลังงาน

อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญกับความท้าทายหลัก 3 ด้าน ซึ่งกระทบต่อการวางแผนพลังงานในทุกระดับ ได้แก่
- ความมั่นคงทางพลังงาน ภัยคุกคามรูปแบบใหม่ทั้ง Geopolitics, Disaster และ Cyber Attack ซึ่งอาจทำให้การผลิตและจ่ายไฟฟ้าของประเทศเสี่ยงต่อการหยุดชะงัก
- เศรษฐกิจพลังงาน ผลกระทบจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลก เช่น Economic Slowdown, Trade Wars & Reciprocal Tariffs และการเปลี่ยนแปลงของ New Economy ทำให้ต้องปรับนโยบายการลงทุนด้านพลังงานให้ยืดหยุ่นและสอดคล้องกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมและผู้บริโภค
- พลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การเร่งเข้าสู่ Net Zero เพื่อรับมือสภาพอากาศสุดโต่ง Extreme Weathering, Glasgow Climate Pact (COP26) และมาตรการกีดกันทางการค้าสำหรับสินค้าที่มีคาร์บอนสูง
แรงขับเคลื่อนใหม่จากเป้าหมาย Net Zero 2050
อรรถพล เน้นว่า เป้าหมาย Net Zero ถือเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้ประเทศไทยต้องปรับกลยุทธ์พลังงานใหม่ จากเดิมที่ตั้งเป้าบรรลุใน ค.ศ. 2065 เป็น ค.ศ. 2050 เพื่อสอดคล้องกับนโยบายโลกและสร้างความสามารถแข่งขันด้านพลังงานของประเทศ “การเปลี่ยนผ่านพลังงานครั้งนี้ไม่ใช่เพียงเรื่องของสิ่งแวดล้อม แต่เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สร้างความมั่นคง และลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานให้กับประชาชน
นโยบายสำคัญ 3 ด้านของกระทรวงพลังงาน
การกำหนดนโยบายจะต้องยึดหลัก 3 ด้าน ที่เดินควบคู่กัน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและประเทศ
- ความมั่นคงทางพลังงาน เป็นเป้าหมายลำดับแรกของนโยบายพลังงานไทย โดยมุ่งสร้างระบบพลังงานที่ยืดหยุ่น มีประสิทธิภาพ และรองรับทุกประเภทพลังงาน
- พลังงานขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ส่งเสริมการลงทุนในพลังงานเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของประเทศ ทั้งในภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจยุคใหม่
- พลังงานคาร์บอนต่ำ ปรับเป้าหมาย Net Zero เร็วขึ้น และสนับสนุนโครงการพลังงานสะอาด เช่น โซลาร์ฟาร์มชุมชน โซลาร์ลอยน้ำ และโครงการดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CCS)
5 ภาพพลังงานไทยในปัจจุบัน
- มั่นคงมากขึ้น เพิ่มการจัดหาแหล่งพลังงานหลากหลายเพื่อลดความเสี่ยง
- ระบบพลังงานยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ รองรับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบพลังงานทั้งฟอสซิลและสะอาด
- พลังงานขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การลงทุนด้านพลังงานช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
- พลังงานที่สะอาดและยั่งยืน เตรียมเสนอแผนมาตรการพลังงานสีเขียวครอบคลุมทั้งการจัดหาและการใช้งาน
- สนับสนุนเทคโนโลยีใหม่ รองรับการเปลี่ยนผ่านพลังงานสู่อนาคต (Energy Transition)
โครงการ “Quick Big Win” สร้างผลลัพธ์ทันใจ
หนึ่งในโครงการสำคัญที่อรรถพลเน้นย้ำคือ Quick Big Win ซึ่งมุ่งลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของประชาชนและสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ
โครงการดังกล่าวครอบคลุมทั้ง โซลาร์สูบน้ำเพื่อเกษตรกรรม โซลาร์ฟาร์มชุมชน และมาตรการส่งเสริมการติดตั้งโซลาร์เซลล์ในครัวเรือน โดยมุ่งผลักดันให้ประชาชนและชุมชนสามารถใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
“เป้าหมายของ Quick Big Win ต้องชัดเจน เพราะเวลาที่มีจำกัด เราต้องลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของประชาชนเป็นลำดับแรก ทั้งการตรึงราคาก๊าซหุงต้ม ลดราคาน้ำมัน และลดค่าไฟในอนาคต” อรรถพล กล่าว
Dinner Talk Session การเปลี่ยนผ่านโครงข่ายไฟฟ้าและทรัพยากรพลังงาน ความท้าทาย โอกาสและมาตรการรองรับ

วฤต รัตนชื่น ผู้ช่วยผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวในงาน IEEE PES Dinner Talk 2025 ว่า แนวคิด ESG กลายเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินงานทั่วโลก โดยเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อมที่เน้นการลดคาร์บอนและมุ่งสู่ Net Zero ซึ่งประเทศไทยเร่งเป้าหมายเป็น ค.ศ. 2050
ระยะสั้น กระทรวงพลังงานผลักดันแนวทาง Quick Win ผ่านโครงการที่สร้างผลลัพธ์รวดเร็ว เช่น โซลาร์ลอยน้ำDirect PPA และการจ่ายไฟให้ Data Center และอุตสาหกรรมใหม่
วฤต เน้นว่า กฟผ. ต้องผสานพลังงานหมุนเวียนและพลังงานสะอาดให้ได้มากขึ้น พร้อมพัฒนาเทคโนโลยีเสริม เช่น โรงไฟฟ้า SMR และระบบจัดเก็บพลังงาน (Pumped Hydro, BESS) รวมถึงนำ Digitalization มาปรับปรุงระบบส่งและจัดการพลังงาน รองรับอุตสาหกรรม EV และ Data Center
วิสัยทัศน์ของ กฟผ. คือสร้าง โซลูชันพลังงานที่มั่นคง ยั่งยืน และแข่งขันได้ โดยการเปลี่ยนผ่านพลังงานครั้งนี้เป็นภารกิจร่วมของทุกภาคส่วน เพื่อให้ประเทศไทยก้าวสู่อนาคตพลังงานสะอาดอย่างมั่นคง
PEA ขับเคลื่อน “Power for AI Future” รองรับเศรษฐกิจดิจิทัล

ดร.มงคล ตรีกิจจานนท์ ผู้ว่าการ PEA นำเสนอวิสัยทัศน์ “Power for AI Future” เพื่อเตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนผ่านพลังงานภายใต้เทคโนโลยีดิจิทัลและการเติบโตของ Data Center โดยเฉพาะใน EEC ซึ่งเป็นศูนย์กลางการลงทุนและใช้ไฟฟ้าสูงถึง 611.3 ล้านหน่วยใน พ.ศ. 2567
PEA ต้องเผชิญความท้าทายใหม่ทั้งการจัดการโหลดไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว การรักษาเสถียรภาพคุณภาพไฟฟ้า และการสนับสนุน Green Data Center ผ่าน Direct PPA และ Third Party Access พร้อมลงทุนระบบส่ง–จำหน่ายไฟฟ้าให้รองรับโหลดใหญ่และระบบจ่ายไฟสองแหล่ง
พร้อมกันนี้ PEA พัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัล TPA และ Energy Trading Platform สนับสนุนตลาดพลังงานเสรี โปร่งใส และยืดหยุ่น รวมถึงโครงการพลังงานสะอาด เช่น P2P Trading, BESS และ Green Electricity Service
PEA มุ่งสร้างโครงข่ายไฟฟ้า Smart, Flexible, Sustainable รองรับ Prosumer และ Data Center ทั่วประเทศ สร้างรากฐานระบบพลังงานสะอาดยั่งยืนในยุคดิจิทัล
MEA ขับเคลื่อนกริดมหานครสู่เมืองดิจิทัลและพลังงานสะอาด

ดิเรก บุญปิยทัศน์ รองผู้ว่าการ กฟน. เผยทิศทางการปรับตัวของกริดมหานครรองรับการเติบโตของเมืองดิจิทัลและการใช้พลังงานหมุนเวียน เช่น โซลาร์รูฟท็อป และยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ด้วยเป้าหมายให้ระบบไฟฟ้า ยืดหยุ่น ฉลาด และเสถียรสูงสุด
หนึ่งในแนวทางหลักคือโครงการ Grid Modernization of Metropolis ปรับปรุงสถานีไฟฟ้าให้ทันสมัย ติดตั้ง Energy Storage และ Solar Station Service รวมถึงเปลี่ยนสายส่งเป็นสายเคเบิล GIS และหม้อแปลงชนิด Amorphous เพื่อลดการสูญเสียพลังงาน พร้อมระบบตรวจวัดเรียลไทม์ (TOM)
กฟน. ยังทดลองระบบ Smart Distribution และเทคโนโลยี Power Quality Compensator (PQC) เพื่อรักษาคุณภาพไฟฟ้า รองรับทั้งครัวเรือนและอุตสาหกรรมใหม่ เช่น Data Center พร้อมแผน Thailand Power Map แสดงความพร้อมโครงข่ายไฟฟ้าในแต่ละพื้นที่
สำหรับ EV กฟน.พัฒนานวัตกรรมตรวจสอบความปลอดภัยและ EV Smart Charger แบบกระจายศูนย์ เพื่อรองรับการชาร์จหลายคันพร้อมกัน
ดังนั้น การลงทุนโครงข่ายไฟฟ้าไม่ใช่แค่เทคโนโลยี แต่คือ การลงทุนในความมั่นคงและอนาคตของเมือง ภายใต้วิสัยทัศน์ “พลังงานเพื่อชีวิตเมืองมหานคร” เพื่อเมืองที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
และได้มีการมอบรางวัลโดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ประกอบด้วย 4 รางวัล ได้แก่

ดิเรก บุญปิยทัศน์ รับแทน วิลาศ เฉลยสัตย์
1. IEEE PES Outstanding Engineer Award 2025

วิศิษฎ์ ศรีนันทวงศ์
2. IEEE PES Outstanding Chapter Volunteer Award 2025

ดร.รสยา เธียรวรรณ
3. IEEE PES Women In Power Award 2025

น้ำมนต์ เลิศจิตจรัส
4. IEEE PES Young Engineer Award 2025