กรมศิลป์ชูไฮไลท์เมืองมรดกโลก ผ่านกิจกรรม “อยุธยานาวา เมืองท่านานาชาติร่มพระบารมีสิริยาลัย” ปลุกพลังวัฒนธรรมไทย ขับเคลื่อนการท่องเที่ยว


กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) โดยกรมศิลปากรชวนสัมผัสมนต์เสน่ห์โบราณสถานและพิพิธภัณฑ์ยามราตรีทั่วประเทศผ่านโครงการท่องเที่ยวโบราณสถานและพิพิธภัณฑ์ยามราตรี โดยนำร่องกิจกรรม อยุธยานาวา เมืองท่านานาชาติ ร่มพระบารมีสิริยาลัย ชูไฮไลท์อยุธยาเมืองมรดกโลกกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวโบราณสถานในภาคกลางคืน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ก่อนเดินหน้าจัดกิจกรรมท่องเที่ยวโบราณสถานยามราตรีในพื้นที่โบราณสถานอีก 5 แห่งทั่วไทย ส่งท้ายปี2568 ข้ามจนถึงปี 2569

การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม 

ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในงานแถลงข่าว โครงการท่องเที่ยวโบราณสถานและพิพิธภัณฑ์ยามราตรี และกิจกรรม “อยุธยานาวา เมืองท่านานาชาติ ร่มพระบารมีสิริยาลัย” ณ วัดไชยวัฒนาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมกันนี้มีการแสดงโขนตัวอย่างรามเกียรติ์ ตอนพระรามข้ามสมุทร ก่อนจะแสดงเต็มในวันเปิดงาน 27 ธันวาคม 2568

การแสดงโขนตัวอย่างรามเกียรติ์ ตอนพระรามข้ามสมุทร

ซาบีดา ไทยเศรษฐ์

ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมกล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมศิลปากร ได้ดำเนินโครงการท่องเที่ยวโบราณสถานและพิพิธภัณฑ์ยามราตรี ต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 3 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ซึ่งเป็นวิธีสำคัญอย่างหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การส่งเสริมการท่องเที่ยวโบราณสถานในภาคกลางคืน ทำให้นักท่องเที่ยวใช้เวลาอยู่ในพื้นที่นานขึ้น มีการทานอาหาร ซื้อสินค้าและบริการ รวมทั้งมีการพักค้างแรม ส่งผลดีต่อผู้ประกอบการด้านที่พัก ร้านอาหาร และบริการอื่น ๆ สอดคล้องกับนโยบาย Quick Big Win คือ สามารถดำเนินการได้ทันที และเห็นผลชัดเจนเป็นรูปธรรม ภายใต้วิสัยทัศน์ “สืบสาน สร้างสรรค์ นำวัฒนธรรมไทย  สู่อนาคตอย่างยั่งยืน” ส่งเสริม “พลังวัฒนธรรม” ให้เกิดเป็น “รายได้จริง” ภายใต้แนวคิด “ไท ไทย” เปิดพื้นที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมให้เข้าถึงง่ายขึ้น

ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 กรมศิลปากร ได้กำหนดจัดกิจกรรมโครงการท่องเที่ยว เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมบรรยากาศโบราณสถานอันสวยงามยามค่ำคืน พร้อมสัมผัสวิถีไทยกับกิจกรรมทางศิลปวัฒนธรรมต่าง ๆ มากมาย สร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ โดยกำหนดจัดกิจกรรมท่องเที่ยวโบราณสถานยามราตรีในพื้นที่โบราณสถาน 6 แห่ง ได้แก่

1) อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาจัดกิจกรรมระหว่างเดือนธันวาคม 2568 – มกราคม 2569

2)  อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย จังหวัดนครราชสีมา จัดกิจกรรมระหว่างเดือนธันวาคม 2568 – มกราคม 2569

3) เมืองโบราณเวียงกุมกาม จังหวัดเชียงใหม่ จัดกิจกรรมในเดือนกุมภาพันธ์ 2569

4) อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร จัดกิจกรรมในเดือนมีนาคม 2569

5) อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จัดกิจกรรมในเดือนเมษายน 2569

6) พระนารายณ์ราชนิเวศน์ จังหวัดลพบุรี จัดกิจกรรมในเดือนกรกฎาคม 2569

ส่วนโครงการท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์ยามราตรี ประกอบด้วย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ 6 แห่ง ได้แก่

  1. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จันทรเกษม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จัดกิจกรรมระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2568 – กุมภาพันธ์ 2569
  2. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครกรุงเทพมหานคร จัดกิจกรรมในเดือนธันวาคม 2568 (ระหว่างวันที่ 19-21 และ 26-28 ธันวาคม 2568)
  3. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี กรุงเทพมหานคร จัดกิจกรรมในเดือนธันวาคม 2568 (ระหว่างวันที่ 26-28 ธันวาคม 2568)​
  4. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม จัดกิจกรรมในเดือนมกราคม 2569
  5. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี จัดกิจกรรมในเดือนมกราคม 2569 (ระหว่างวันที่ 22-25 มกราคม 2569)
  6. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา จัดกิจกรรมระหว่างเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม 2569

“สำหรับอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา แหล่งมรดกโลก เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่มีผู้มาเยือนมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ในแต่ละปีมีผู้มาเยือนทั้งชาวไทยและต่างประเทศไม่ต่ำกว่าปีละ 3 ล้านคน สามารถจัดเก็บค่าเข้าชมได้มากกว่าปีละ 100 ล้านบาท สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวให้แก่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และประเทศไทยปีละหลายหมื่นล้านบาท กรมศิลปากรจึงจะจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโบราณสถานและพิพิธภัณฑ์ยามราตรี ณ โบราณสถานวัดมหาธาตุ วัดราชบูรณะ วัดพระราม วัดพระศรีสรรเพชญ์ วัดไชยวัฒนาราม และพระราชวังจันทรเกษม เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมบรรยากาศโบราณสถานอันสวยงามยามค่ำคืนของแหล่งมรดกโลกแห่งนี้” ซาบีดา กล่าว

โครงการดังกล่าวจัดขึ้นภายใต้กิจกรรม “อยุธยานาวา เมืองท่านานาชาติ ร่มพระบารมีสิริยาลัย” เพื่อเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงโดยกำหนดให้โบราณสถานวัดไชยวัฒนารามซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามพระตำหนักสิริยาลัยเป็นสถานที่จัดกิจกรรมหลัก ร่วมด้วยโบราณสถานวัดพระราม พิพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จันทรเกษม และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา แบ่งกิจกรรมออกเป็น 2 ช่วงเวลา ได้แก่ วันที่ 26ธันวาคม 2568 – วันที่ 4 มกราคม 2569 เป็นเวลา 10 วันต่อเนื่อง และวันที่ 9 มกราคม – 1 กุมภาพันธ์ 2569 ทุกวันศุกร์ – อาทิตย์  และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 16.30 น. – 21.30 น.

นอกจากจะเปิดให้ประชาชนเข้าชมโบราณสถานอันทรงคุณค่าให้ได้เห็นความงดงามยามค่ำคืนแล้ว ยังมีกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจดังนี้

  • ​วัดไชยวัฒนารามมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมและการละเล่นไทยโบราณ การลอยประทีป ตลาดโบราณนานาชาติ พร้อมแต่งชุดไทยเพื่อถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ภายใต้บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสวยงามของสถานที่ทางประวัติศาสตร์ยามค่ำคืน ทั้งนี้ ในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ยังได้จัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ด้วย
  • ​โบราณสถานวัดพระรามแต่งชุดไทยชมไฟประดับโบราณสถานและถ่ายภาพเป็นที่ระลึก
  • ​พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จันทรเกษมNight at the Palace ย้อนเวลา ชมวัง 4 ศตวรรษ พระราชวังจันทรเกษม พบกับกิจกรรมชาววังพาชม ชาววังชวนขึ้นหอ สายมู ยูต้องมา และการสาธิต  งานศิลปวัฒนธรรมต่าง ๆ ตั้งแต่เวลา 00 น. – 21.00 น.
  • พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยาจัดกิจกรรมการเสวนาทางวิชาการ ในวันเสาร์   และอาทิตย์ เวลา 00 น. – 16.00 น. โดยวันที่ 11 มกราคม 2569 ยังมีการจัดกิจกรรมการประกวดแมวไทยโบราณคืนถิ่นกรุงศรี ปีที่ 2 พร้อมชมนิทรรศการโบราณวัตถุและของสะสม การออกร้านของที่ระลึก และการสาธิตการคัดลอกตำราแมวและฤกษ์การเดินเรือ จากสมุดไทยฉบับระยอง ตั้งแต่เวลา 09.00 น. – 16.00 น. และชมนิทรรศการชุดไทยพระราชนิยมสัญจร จากพิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2568 – วันที่ 4 มกราคม 2569

นับเป็นโอกาสอันดีและมีไม่บ่อยนักที่ทางกรมศิลปากรจะจัดกิจกรรมสุดพิเศษให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้เข้ามาสัมผัสอยุธยาเมืองมรดกโลก ราชธานีของไทยในอดีต ภายใต้บรรยากาศที่เต็มไปด้วยความสวยงามของสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ยามค่ำคืนอย่างใกล้ชิด