กรมป่าไม้ ผนึกกำลัง ราชกรุ๊ป สานต่อคนรักษ์ป่า ปีที่ 18 หนุนชุมชนดูแลป่า 1.6 ล้านไร่ รับมืออากาศแปรปรวน


นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 ที่โครงการคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน เริ่มดำเนินการ เพื่อช่วยสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ขององค์การสหประชาชาติ โดยเฉพาะ เป้าหมายที่ 13 “การรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Action)” จนถึงปัจจุบัน บริษัทฯ ได้ให้การสนับสนุนการมีส่วนร่วมของชุมชนในการอนุรักษ์ป่าผ่านกิจกรรมการประกวดป่าชุมชนทั่วประเทศ รวม 1,786 ชุมชน คิดเป็นพื้นที่ป่า รวม รวม 1,620,176.77 ไร่ ซึ่งผืนป่าที่ชุมชนดูแลรักษาไว้นี้ได้กลายเป็นแหล่งบริการระบบนิเวศแก่ชุมชนและสังคม และยังเป็นแหล่งกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์บรรเทาผลกระทบจากภาวะโลกเดือด ได้ราว 10,207,113.65 ตันคาร์บอน (ค่าเฉลี่ยอัตราการกักเก็บคาร์บอนของป่าไม้ประมาณ 6.3 ตัน/ไร่)

ในปีนี้ กรมป่าไม้ ร่วมกับ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) สานต่อโครงการ “คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 18  ตอกย้ำความสำเร็จของการบูรณาการความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และเครือข่ายป่าชุมชนทั่วประเทศ ในการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสนับสนุนเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero ของประเทศ

สะท้อนผ่านความสำเร็จของป่าชุมชนบ้านจาน อำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ ที่สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศระดับประเทศ ถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประจำปี 2568 จากการอนุรักษ์มรดกทางธรรมชาติ ต่อยอดสู่การจัดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ พร้อมทั้งประสานภาคีเครือข่ายรักษ์ป่าที่เข้มแข็งทั้งภายในชุมชนและเครือข่ายในจังหวัดภาคอีสาน

นิกร ศิรโรจนานนท์ อธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยว่า กรมป่าไม้ได้นำแนวคิดในการบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้ ในรูปแบบของป่าชุมชน ที่เปิดโอกาสให้ประชาชนและชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลรักษาป่า ซึ่งในปัจจุบัน กรมป่าไม้ได้ส่งเสริมให้จัดตั้งป่าชุมชน ตามพระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. 2562 จำนวน 12,985 ป่าชุมชน  ชุมชนมีส่วนร่วม จำนวน 14,593 หมู่บ้าน เนื้อที่รวม 7.07 ล้านไร่ โดยกรมป่าไม้จะเร่งขยายให้มีการจัดตั้งป่าชุมชนครอบคลุมทั่วประเทศ ครบตามเป้าหมาย จำนวน 15,000 ป่าชุมชน เพื่อให้ชุมชนได้มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้ในพื้นที่

นิทัศน์ วรพนพิพัฒน์

นิทัศน์ วรพนพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “โครงการคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน” ถือเป็นโครงการเรือธงสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมของบริษัทฯ ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจหลักขององค์กรในการสนับสนุนเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) และยังเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศขององค์กร ในการส่งเสริมการปลูกและฟื้นฟูป่าไม้ ที่มุ่งลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและเพิ่มขีดความสามารถในการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากชั้นบรรยากาศ เพิ่มแหล่งดูดซับคาร์บอน เพื่อสร้างสมดุลแก่ระบบนิเวศและช่วยรักษาความหลากหลายทางชีวภาพของพรรณพืชและสัตว์

ทั้งนี้ การประกวดป่าชุมชนรางวัลคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน ประจำปี 2568 มี 16 ชุมชนที่ได้รับรางวัล โดยพื้นที่ป่าที่ดูแลรักษา รวม 24,088.08 ไร่ ซึ่งสามารถให้บริการเชิงนิเวศได้มูลค่าประมาณ 2,161.59 ล้านบาท และกักเก็บคาร์บอนได้ประมาณ 151,754.90 ตันคาร์บอน

ตำบลหนองเต็ง อำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์

สำหรับรางวัลชนะเลิศในปีนี้เป็นของป่าชุมชนบ้านจาน ตำบลหนองเต็ง อำเภอกระสัง จังหวัดบุรีรัมย์ นับเป็นต้นแบบด้านการบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้และการใช้ประโยชน์อย่างสมดุล รวมทั้งขยายความร่วมมือการอนุรักษ์ป่า ไปยังภาคีเครือข่ายโดยรอบ ได้แก่ กลุ่มเยาวชน โรงเรียนบ้านจาน และราษฎรอาสาสมัครพิทักษ์ป่า (รสทป.) เทศบาลตำบลหนองเต็ง และองค์การบริหารส่วนตำบลชุมแสง อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์  เครือข่ายป่าชุมชนบ้านเสม็ด ตำบลคอโค อำเภอเมือง จ.สุรินทร์

ตัวแทนรางวัลชนะเลิศป่าชุมชนบ้านจาน

ตัวแทนรางวัลชนะเลิศป่าชุมชนบ้านจาน กล่าวว่า ป่าชุมชนบ้านจานเริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2536 โดยความร่วมมือของทีมงานและคณะกรรมการหมู่บ้านร่วมกับเทศบาลในการอนุรักษ์และดูแลผืนป่า ทั้งการทำแนวกันไฟ การปรับปรุงภูมิทัศน์ จุดชมวิว และกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เช่น การปั่นจักรยานตามฤดูกาล

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันพื้นที่ป่าชุมชนรวมกว่า 2,200 ไร่ โดยเป็นพื้นที่มีเอกสารสิทธิประมาณ 800 ไร่ มีชุมชนกว่า 250 ครัวเรือน และหมู่บ้านข้างเคียงกว่า 18 หมู่บ้านใช้ประโยชน์จากป่า ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดไม่เก็บค่าเข้า แต่มีกฎระเบียบเข้มงวด เช่น ห้ามตัดไม้และห้ามนำผลผลิตป่าออกนอกพื้นที่ โดยมีคณะกรรมการและเจ้าหน้าที่ราว 50 คน รวมถึงชาวบ้านร่วมกันดูแล ทั้งนี้ การอนุรักษ์ป่าเกิดขึ้นจากความริเริ่มของพ่อพร้อม ผลบุญ ที่ลุกขึ้นมาปกป้องป่าเมื่อครั้งหน่วยงานภายนอกเข้ามาตัดไม้ไปทำไม้หมอน จนนำไปสู่การรวมตัวของชุมชนในการป้องกันการบุกรุกและฟื้นฟูผืนป่าเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

ตลอดระยะเวลากว่า 18 ปี ของการดำเนินงาน โครงการคนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน ได้สร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมทั้งด้านสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม รวมถึงเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างกว้างขวาง พร้อมเชิดชูเกียรติและสร้างกำลังใจแก่ชุมชนที่ทุ่มเทดูแลผืนป่าให้คงอยู่อย่างยั่งยืนต่อไป