ปัจจุบันโรคต้อหินเป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไป พอ ๆ กับโรคต้อกระจก โรคต้อหินเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับดวงตาทั้ง 2 ข้างของเรา เป็นโรคที่เกิดขึ้นแล้วส่วนใหญ่จะรักษาไม่หายขาด ต้องติดตามการรักษากับจักษุแพทย์อย่างต่อเนื่องในระยะยาว
โรคต้อหินมักเกิดขึ้นกับผู้ป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุมาก่อน เกี่ยวข้องกับความดันลูกนัยน์ตาข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้ง 2 ข้าง ปกติลูกนัยน์ตาอยู่ในเบ้าตาหรือกระบอกตา โดยมีน้ำหล่อเลี้ยงลูกนัยน์ตาทั้ง 2 ข้าง และน้ำที่หล่อเลี้ยงลูกนัยน์ตาจะมีความดันลูกนัยน์ตา (Eye Pressure) มาเกี่ยวข้อง หากมีความผิดปกติภายในลูกนัยน์ตา ไม่ว่าโรคใดโรคใดโรคหนึ่ง อาจมีผลก่อให้เกิดความผิดปกติของความดันลูกนัยน์ตาได้และเป็นสาเหตุให้เกิดโรคต้อหิน เช่น โรคต้อกระจกในตา โรคติดเชื้อในลูกตา โรคแก้วตาดำหรือกระจกตาดำเสื่อม โรคจอประสาทตาเสื่อมหรือการเกิดอุบัติเหตุกระทบโครงสร้างของลูกนัยน์ตามีส่วนก่อให้เกิดโรคต้อหินได้ เช่น การเกิดอุบัติเหตุทางจราจร การเล่นกีฬา การออกกำลังกาย การลื่นหกล้ม รวมถึงการถูกทำร้าย บาดเจ็บต่อเบ้าตาหรือลูกนัยน์ตา ก่อให้เกิดเป็นต้อหินได้ นอกจากนี้ โรคประจำตัวที่เรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน ขาดการดูแลที่ดีพอ เบาหวานขึ้นตา ก่อให้เกิดความผิดปกติของความดันตาและกลายเป็นโรคต้อหินได้ โรคความดันร่างกายผิดปกติ มีไขมันในเลือดสูง กำเริบเป็นความดันลูง ย่อมเป็นเหตุให้เกิดเป็นต้อหินได้
อาการ โรคต้อหิน ผู้ป่วยอาจไม่แสดงอาการใด ๆ หรือระยะเริ่มเป็นไม่ปรากฎอาการและค่อย ๆ ปรากฏอาการ อาจมีภาวะการอักเสบภายในลูกนัยน์ตา มีอาการระคายเคือง น้ำตาไหลบ่อย ตื้อ ๆ หรือปวดรอบ ๆ บริเวณเบ้าตา การเห็นภาพอาจจะพล่ามัวหรือเห็นเลือนลาง จนได้พบจักษุแพทย์จึงพบว่ามีความดันตาขึ้นสูง และพบว่าป็นอาการของโรคต้อหิน จักษุแพทย์จะให้การรักษาโดยให้ยาควบคุมความดันลูกนัยน์ตาเพื่อลดระดับความดันให้อยู่ในเกณฑ์ปกติหรือใกล้เคียงปกติ เพื่อมิให้สภาพของโรคไปกระทบต่อจอประสาทตาหรือเส้นประสาทตา การรักษาด้วยยาหยอดตาต้องดูแลใกล้ชิดตลอดไป หากความดันตาไม่สามารถคุมให้อยู่ในระดับปกติ จักษุแพทย์จะพิจารณาผ่าตัดเพื่อเจาะช่องระบายน้ำในลูกตาเพื่อลดและคุมความดันตาให้ปกติ ดังนั้นผู้ป่วยที่เป็นโรคต้อหินต้องติดตามการรักษากับจักษุแพทย์อย่างใกล้ชิด อาจต้องรักษาตลอดชีวิตเพื่อป้องกันมิให้เกิดตาบอด ซึ่งโรคต้อหินนี้ก่อให้เกิดตาบอดได้สูง ดังนั้นการดูแลลูกนัยน์ตาและการป้องกันเป็นวิธีที่ดีที่สุด ควรใส่ใจตรวจเช็คสุขภาพร่างกายเป็นประจำและตรวจสุขภาพตากับจักษุแพทย์ปีละ 1 ครั้งเป็นอย่างน้อย ป้องกันหรือดูแลโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง ออกกำลังกายเป็นประจำ ป้องกันอุบัติเหตุที่เกิดกับลูกนัยน์ตา งดบุหรี่ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ทำจิตใจให้แจ่มใส พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารและน้ำดื่มที่เหมาะสมกับร่างกาย จะทำให้ห่างโรคต้อหินได้อย่างปลอดภัย