บริษัท กรีน เยลโล่ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำโซลูชันพลังงานสะอาดระดับโลก ตอกย้ำความมุ่งมั่นสู่การเปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาดในไทย รุกเดินหน้า 3 กลุ่มเป้าหมายหลัก ทั้งภาคเอกชน การควบรวมกิจการ และสาธารณูปโภคภาครัฐ ตั้งเป้าเติบโต 25% ในปี 2568 และรายได้ธุรกิจฝั่งโซลาร์พุ่งแรงถึง 38% พร้อม ขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ “โซลาร์ ฟรอนเทียร์ส” ผ่านแพลตฟอร์ม Smart Energy แบบครบวงจร ที่รวมโซลาร์หลากหลายรูปแบบ โซลูชันเพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน และระบบกักเก็บพลังงาน ภายใต้โมเดล “Zero Capital Energy Transition” ที่ช่วยให้องค์กรไทยเข้าถึงพลังงานสะอาดได้โดยไม่ต้องลงทุนเอง เสริมศักยภาพธุรกิจไทยให้ลดต้นทุน พัฒนาความยั่งยืน และแข่งขันได้อย่างแข็งแกร่งในเวทีโลก

จีรภา คงสว่างวงศา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายธุรกิจและการตลาด บริษัท กรีน เยลโล่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในยุคที่โลกกำลังเผชิญกับความท้าทายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและต้นทุนพลังงานที่ผันผวน การเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดไม่ใช่เพียงทางเลือก แต่เป็นความจำเป็นเร่งด่วนสำหรับองค์กรที่มีวิสัยทัศน์และต้องการก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน ขณะที่ประเทศไทยมีศักยภาพในการพัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์ และภาคธุรกิจไทยก็มีความตื่นตัวอย่างมากในการนำพลังงานสะอาดมาใช้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและสร้างภาพลักษณ์องค์กรที่ดี กรีน เยลโล่ เล็งเห็นถึงโอกาสและความท้าทายเหล่านี้ จึงพัฒนานวัตกรรมและโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างแท้จริง
“เรามุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำ และพร้อมที่จะเป็นพันธมิตรที่เชื่อถือได้สำหรับทุกธุรกิจที่ต้องการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด จึงไม่เพียงแต่นำเสนอแนวคิด แต่ได้พิสูจน์ความสำเร็จผ่านโครงการที่เป็นรูปธรรมมากมายทั่วโลก และในประเทศไทย โดยในปี 2568 นี้ บริษัทฯ ประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นด้วยการเพิ่มกำลังการผลิตติดตั้งใหม่กว่า 50 เมกะวัตต์ พร้อมตั้งเป้ารายได้ฝั่งโซลาร์จะเติบโตถึง 38% และฝั่งการจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพจะเติบโตกว่า 600% เมื่อเทียบกับปีก่อน ด้วยประสบการณ์การทำงานร่วมกับองค์กรชั้นนำในหลากหลายอุตสาหกรรม ทั้งการผลิต ค้าปลีก อาหารและเครื่องดื่ม โรงแรม และโลจิสติกส์ บริษัทฯ ได้ติดตั้งระบบพลังงานสะอาดรวมกว่า 210 เมกะวัตต์ ช่วยให้ลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานได้มากกว่า 450 ล้านบาทต่อปี และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากกว่า 140,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี กรีน เยลโล่ ตั้งเป้าที่จะปิดปี 2568 ด้วยโครงการรวมทั้งสิ้น 250 โครงการ” จีรภา กล่าว

ความสำเร็จเหล่านี้ตอกย้ำความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ยาวนานในตลาดโลกของกรีน เยลโล่ ในฐานะผู้บูรณาการและผู้ดำเนินงานโซลูชันพลังงานยั่งยืน พร้อมทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษา ออกแบบ ติดตั้ง และดูแลรักษาระบบอย่างครบวงจร เพื่อช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถปรับเปลี่ยนสู่การใช้พลังงานไฟฟ้าและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน ลดต้นทุน และบรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยคาร์บอน

จีรภา กล่าวว่า เพื่อบรรลุเป้าหมายการเติบโตอย่างก้าวกระโดด กรีน เยลโล่ ได้วางกลยุทธ์การเจาะตลาด 3 กลุ่มเป้าหมายหลัก ได้แก่ กลุ่มผู้บริโภคภาคเอกชน (Private Consumption) ซึ่งเป็นฐานลูกค้าเดิมที่บริษัทฯ มีความแข็งแกร่งและจะขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น กลุ่มการควบรวมและซื้อกิจการ (M&A) โดยมุ่งเน้นการเข้าซื้อโรงไฟฟ้าที่มีอยู่เดิมเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและเพิ่มสัดส่วนรายได้อย่างมีนัยสำคัญ และกลุ่มสาธารณูปโภค (Utilities) ซึ่งเป็นตลาดใหม่ที่มีศักยภาพสูง โดยเฉพาะสถานที่ขององค์กรภาครัฐ มหาวิทยาลัย และโรงพยาบาล ที่มีความต้องการลดต้นทุนพลังงานและส่งเสริมความยั่งยืน
“การขยายสู่ 3 กลุ่มเป้าหมายหลักนี้จะเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของเรา โดยเรามุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนความท้าทายด้านพลังงานให้เป็นโอกาสทางธุรกิจ ด้วยโมเดลที่ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ร่วมกัน แนวทางนี้ไม่เพียงแค่ช่วยประหยัดต้นทุน แต่ยังสนับสนุนการก้าวไปสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนร่วมกัน และสร้างความยั่งยืนให้กับประเทศไทยในระยะยาว” จีรภา กล่าวทิ้งท้าย
สนใจรับคำปรึกษาด้านโครงการติดตั้งโซลาร์เซลล์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย สามารถติดต่อได้ที่เว็บไซต์ www.greenyellow.co.th LINE official account: @greenyellowth หรือโทร 02 079 8081