การประชุม IEEE PES GTD ASIA 2025 ได้จัดให้มี Super Session 1 ในหัวข้อ “Ancillary Services and Technologies; Opportunities for Thailand’s Power Grid” เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน 2568 เวลา 14.00–17.30 น. ณ พื้นที่ Energy Exchange ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) กรุงเทพมหานคร โดยเป็นเวทีสำคัญที่รวบรวมผู้กำหนดนโยบาย ผู้ปฏิบัติการระบบไฟฟ้า นักวิชาการ และภาคเอกชนด้านเทคโนโลยีมาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองต่ออนาคตของ “บริการสนับสนุนระบบไฟฟ้า” หรือ Ancillary Services ของประเทศไทย
ไฮไลต์สำคัญของเวทีครั้งนี้คือการเข้าร่วมบรรยายของ ดร.วรวุฒิ วรุตตมพรสุ Country Managing Director บริษัท ฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งได้นำเสนอวิสัยทัศน์ของ Hitachi Energy ในฐานะผู้ให้บริการเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานระบบไฟฟ้าระดับโลก ที่มุ่งสนับสนุนให้โครงข่ายไฟฟ้าไทยมีความมั่นคง ยืดหยุ่น และพร้อมรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดและเป้าหมาย Net Zero
ดร.วรวุฒิได้กล่าวถึงบทบาทของ Ancillary Services ว่าเป็นหัวใจสำคัญของการบริหารโครงข่ายไฟฟ้ายุคใหม่ โดยเฉพาะเมื่อสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนและแหล่งผลิตกระจายตัวเพิ่มสูงขึ้น ระบบไฟฟ้าจำเป็นต้องมีเทคโนโลยีที่ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ทั้งในด้านการควบคุมความถี่ แรงดันไฟฟ้า กำลังสำรอง และการกู้คืนระบบ เพื่อคงเสถียรภาพของโครงข่ายควบคู่ไปกับการลดการปล่อยคาร์บอน
Hitachi Energy ได้นำเสนอแนวทางและโซลูชันที่ช่วยเสริมศักยภาพ Ancillary Services ของไทย ไม่ว่าจะเป็น
- STATCOM (Static Synchronous Compensator) ระบบควบคุมแรงดันไฟฟ้าและคุณภาพพลังงานแบบเรียลไทม์ เพื่อรักษาเสถียรภาพของกริด
- HVDC (High-Voltage Direct Current) ระบบส่งกำลังไฟฟ้าแรงสูงในรูปแบบกระแสตรง ที่สามารถส่งพลังงานได้ไกลขึ้นด้วยการสูญเสียน้อยลง
- SFC (Static Frequency Converters) อุปกรณ์แปลงความถี่ไฟฟ้า ช่วยให้ระบบที่มีมาตรฐานต่างกันสามารถเชื่อมโยงและทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- BESS (Battery Energy Storage System) ระบบกักเก็บพลังงานอัจฉริยะ ช่วยให้พลังงานต่อเนื่องแม้ในช่วงเวลาที่ผลิตพลังงานได้น้อย ช่วยบริหารจัดการความผันผวนของพลังงานหมุนเวียนได้อย่างลงตัว
รวมถึงแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลและคาดการณ์พฤติกรรมโหลดและการผลิตไฟฟ้า ซึ่งช่วยให้ผู้ให้บริการระบบสามารถบริหารสมดุลอุปสงค์–อุปทานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดต้นทุนการดำเนินการ และเพิ่มความยืดหยุ่นของระบบไฟฟ้าโดยรวม
นอกจากนี้ ดร.วรวุฒิยังได้เน้นถึงบทบาทของ Hitachi Energy ในการ “ขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านพลังงาน” ของประเทศไทย ผ่านการทำงานร่วมกับหน่วยงานด้านพลังงานและสาธารณูปโภคของไทยอย่างใกล้ชิด ทั้งในโครงการปรับปรุงโครงข่ายไฟฟ้าเดิมและการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อยกระดับความปลอดภัย ความมั่นคง และความยั่งยืนของระบบไฟฟ้า พร้อมทั้งทำให้ไฟฟ้ามีความเข้าถึงได้มากขึ้น เป็นธรรม และสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ
เวที Super Session 1 ในครั้งนี้จึงไม่เพียงเป็นเวทีแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้าน Ancillary Services เท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึงบทบาทเชิงรุกของ Hitachi Energy และผู้นำอย่าง ดร.วรวุฒิ วรุตตมพรสุ ในการร่วมออกแบบอนาคตโครงข่ายไฟฟ้าของประเทศไทย ให้ก้าวสู่ระบบพลังงานที่ ยั่งยืน ปลอดภัย มีเสถียรภาพ และพร้อมรองรับเป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero ในระยะยาว