ในแต่ละปี ประเทศไทยผลิต “หางแร่” หรือของเหลือจากกระบวนการทำเหมืองแร่จำนวนมหาศาล โดยเฉพาะจากการสกัดทองคำและเงิน แม้หางแร่จะถูกจัดการอย่างเป็นระบบ แต่ในทางปฏิบัติกลับถูกทิ้งไว้โดยไร้มูลค่า ซึ่งสวนทางกับแนวโน้มการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และความจำเป็นในการลดของเสียตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน และการทำเหมืองแบบไร้ของเสีย ขณะที่ต้นทุนวัสดุก่อสร้างในหลายภูมิภาคของไทย โดยเฉพาะพื้นที่ห่างไกล เช่น จังหวัดพิจิตรและเพชรบูรณ์ เพิ่มสูงขึ้นจากค่าขนส่งและความขาดแคลนวัตถุดิบในพื้นที่ ส่งผลให้ชุมชนท้องถิ่นไม่สามารถเข้าถึงวัสดุก่อสร้างคุณภาพในราคาย่อมเยาได้