กรุงเทพฯ : คอร์สแอร์ กรุ๊ป อินเตอร์เนชั่นแนล (Corsair Group International) ผู้พัฒนาโซลูชั่นธุรกิจด้านสิ่งแวดล้อมซึ่งมีสำนักงานใหญ่ประจำประเทศไทย (Corsair Group Thailand) และสำนักงานใหญ่ประจำภาคพื้นยุโรปที่เนเธอร์แลนด์ เปิดตัว “CSR PLASTIC CREDIT” นำเสนอแพคเกจการรีไซเคิลขยะพลาสติกหลากรูปแบบ เพื่อให้ผู้ประกอบการธุรกิจได้การรับรองสถานะการลดขยะพลาสติกเป็นศูนย์ (Plastic Neutral) เพื่อยกระดับฐานะหน่วยงานสู่การเป็นองค์กรสีเขียว ด้วยการรับรองมาตรฐานระดับโลก พร้อมเพิ่มอัตราการรีไซเคิลขยะพลาสติกเป็นรูปธรรมพร้อมกันทั่วโลก
มลภาวะจากขยะพลาสติกล้วนเกิดจากมนุษย์ทุกคน โดยเฉลี่ยมนุษย์จะสร้างขยะพลาสติกราวคนละ 50 กิโลกรัมต่อปี ดังนั้น ตลอดชีวิตของเราจะสร้างขยะพลาสติกถึง 4,000-5,000 กิโลกรัม ธุรกิจขนาดเล็กจะสร้างขยะพลาสติกนับสิบหรือนับร้อยกิโลกรัมต่อเดือน ในขณะที่บริษัทขนาดใหญ่จะสร้างหลายสิบหรือหลายร้อยล้านกิโลกรัมต่อเดือนเลยทีเดียว เฉพาะในประเทศไทย มีการผลิตขยะพลาสติกปีละกว่า 2 พันล้านกิโลกรัม ซึ่งในจำนวนนี้ถูกนำไปรีไซเคิลไม่ถึง 10% เท่านั้น และแม้ผู้คนต้องการร่วมลดขยะพลาสติกเพื่อช่วยรักษ์โลก แต่ยังไม่ปรากฏแนวทางปฏิบัติเพื่อสร้างความแตกต่างที่ชัดเจน
คอร์สแอร์ เข้าใจถึงความท้าทายในการแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกอย่างมีประสิทธิภาพ จึงพัฒนาแนวทางที่สะดวกง่ายดายสำหรับทุกคนในการร่วมสร้างผลกระทบเชิงบวกในรูปแบบ “CSR Plastic Credit” แพคเกจการรีไซเคิลขยะพลาสติกแนวใหม่ โดยแต่ละแพคเกจจะกำหนดปริมาณขยะพลาสติกมากน้อยแตกต่างกัน เพื่อให้ผู้สนใจสามารถเลือกแพ็คเกจที่มีปริมาณขยะพลาสติกเหมาะสมกับขนาดองค์กรของตนเอง โดย “CSR Plastic Credit” จะเป็นเครื่องมือทั้งสำหรับบุคคล บริษัทผู้ประกอบการมุ่งสู่สถานะการลดขยะพลาสติกเป็นศูนย์ (Plastic Neutral) ได้อย่างแท้จริง
ทั้งนี้ “CSR Plastic Credit” จะเหมือนกับ Carbon Credit ยกตัวอย่างเช่น หากบริษัทของผู้ประกอบการมีอัตราการสร้างขยะพลาสติกราว 50 กิโลกรัมต่อปี ก็สามารถเลือกซื้อแพคเกจ 10 ปี ซึ่งกำหนดปริมาณขยะพลาสติกที่ 500 กิโลกรัม (ปีละ 50 กิโลกรัม) และคอร์สแอร์จะเป็นผู้รับผิดชอบรีไซเคิลขยะพลาสติกแทนบริษัทผู้ซื้อแพคเกจในปริมาณ 50 กิโลกรัมต่อปี ซึ่งเท่ากับว่า บริษัทที่เข้าร่วมโครงการมีอัตราการสร้างขยะพลาสติกปีละ 50 กิโลกรัมและสามารถรีไซเคิลขยะพลาสติกได้ 50 กิโลกรัมเช่นกัน จึงมีสถานะการสร้างขยะพลาสติกเป็นศูนย์ (Plastic Neutral) โดยสมบูรณ์
ในแง่ของการปฏิบัติงาน คอร์สแอร์จะรับภาระแทนบุคคลและบริษัทต่าง ๆ ในการเก็บรวบรวมขยะพลาสติกเข้าสู่กระบวนการแปรรูปในโรงงานที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อรีไซเคิลขยะพลาสติกให้เป็นน้ำมันชีวภาพขั้นสูง (Advanced Bio-oil) และสามารถนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเชื้อเพลิงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า เช่น น้ำมันเบนซินและดีเซล และสำคัญที่สุดคือสามารถเป็นผลิตภัณฑ์พลาสติกชิ้นใหม่ได้ วิธีการนี้จึงสามารถลดความจำเป็นในการใช้น้ำมันแบบเดิม ๆ และยังช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศอย่างได้ผล
สำหรับผู้เข้าร่วมโครงการที่ซื้อแพ็คเกจ “CSR Plastic Credit” จะได้รับใบเสร็จดิจิทัลซึ่งจะระบุถึงข้อมูลปริมาณขยะพลาสติกที่ถูกขจัดออกจากสภาพแวดล้อมจริง โดยขยะพลาสติกทุก ๆ 1 กิโลกรัมที่คอร์สแอร์ขจัดออกจากสภาพแวดล้อม บริษัทจะออกแต้ม CSR Plastic Credits 10 แต้ม ซึ่งขั้นตอนการทำงานและแต้มเครดิตจะถูกบันทึกบนเทคโนโลยีบล็อกเชนซึ่งเป็นระบบเก็บข้อมูลแบบ Open Source เพื่อมอบความโปร่งใสและความเชื่อถือได้ต่อสาธารณะ
ผู้เข้าร่วมโครงการยังสามารถนำตัวเลขนี้ไปหักลบข้อมูลการสร้างขยะพลาสติก (Plastic Footprint) ในรายงานผลประกอบการขององค์กร ตลอดจนนำไปใช้ในการประชาสัมพันธ์และการตลาดเพื่อยกระดับหน่วยงานหรือแบรนด์สินค้าสู่สถานองค์กรที่ไม่สร้างขยะพลาสติกสู่สิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรมโดยมีตรามาตรฐานระดับสากลให้การรับรอง ซึ่งจะส่งผลถึงการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันทางธุรกิจและการดำเนินงานอย่างมหาศาล
ยูสซี เว็คโค ซาโลรานตา (Mr.Jussi Veikko Saloranta) ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร คอร์สแอร์ กรุ๊ป อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า เราปฏิวัติการบริหารจัดการขยะพลาสติกด้วยระบบดิจิทัล งานศึกษาในปัจจุบันแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภค 80% ในสหรัฐฯ ต้องการซื้อผลิตภัณฑ์และบริการจากแบรนด์ที่มีการลดขยะพลาสติกและมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการขยะพลาสติกที่เหมาะสม งานชิ้นนี้ยังชี้ว่าผู้บริโภคมีความวิตกกังวลถึงผลกระทบจากขยะพลาสติกที่มีต่อมหาสมุทร มากกว่าผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก
“CSR Plastic Credit สามารถช่วยลดและขจัดขยะพลาสติกในระบบเพื่อเข้าสู่สถานะการสร้างขยะพลาสติกเป็นศูนย์ (Plastic Neutral) ซึ่งเป็นเป้าหมายที่เราทุกคนควรเดินหน้าทำให้สำเร็จ และหากเราร่วมมือกันตั้งแต่วันนี้ อนาคตย่อมจะดีขึ้นอย่างแน่นอน ภารกิจนี้จำเป็นต้องผสานความร่วมมือของกลุ่มต่าง ๆ เพื่อสร้างความแตกต่าง ทั้งกลุ่มธุรกิจและกลุ่มประชาชนในวงกว้างทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย เพราะเรามีโลกเพียงใบเดียว เราจึงควรปฏิบัติต่อโลกอย่างเคารพและใส่ใจ เพื่อให้เป็นบ้านที่น่าอยู่ของคนรุ่นใหม่ในอนาคต” ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร คอร์สแอร์ กรุ๊ป อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าว