นับว่าเป็นนิมิตหมายอันดีในการต่อยอดและเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขันด้านธุรกิจแบตเตอรี่ และเทคโนโลยีกักเก็บพลังงานในระยะยาว โดยเป็นความร่วมมือระหว่าง บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC กับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในโครงการวิจัยและพัฒนาโรงงานผลิตแบตเตอรี่ต้นแบบ (Pilot Plant) ด้วยเทคโนโลยี Semi-Solid เป็นการเดินหน้ามุ่งสู่การผลิตแบตเตอรี่ในเชิงพาณิชย์ โดยมีกำหนดระยะเวลาศึกษาแล้วเสร็จปี 2564
เมื่อเร็วๆ นี้ ปตท. ได้ลงนามสัญญาร่วมวิจัยกับ GPSC นำโดย ชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย วรวัฒน์ พิทยศิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่นวัตกรรมและดิจิทัล บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นสัญญาร่วมวิจัยโครงการ “วิจัยและพัฒนาโรงงานผลิตแบตเตอรี่ต้นแบบ โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญที่จะร่วมศึกษา และพิสูจน์ความเป็นไปได้ของเทคโนโลยี ทั้งด้านเทคนิคและเชิงเศรษฐศาสตร์ และการจัดตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่ต้นแบบ เพื่อที่จะเดินหน้าวิจัยและต่อยอดการผลิตแบตเตอรี่ด้วยเทคโนโลยี Semi-Solid ซึ่งเป็นนวัตกรรมกระบวนการผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบใหม่ของ 24M Technology ที่ GPSC เข้าไปร่วมลงทุน ทั้งนี้ เทคโนโลยีดังกล่าวจะช่วยลดขั้นตอนการผลิตลงได้กว่า 50% อีกทั้งยังได้รับการออกแบบเซลล์แบตเตอรี่ให้มีความปลอดภัยสูง อันจะช่วยให้มีประสิทธิภาพที่จะแข่งขันได้ในธุรกิจแบตเตอรี่และเทคโนโลยีการกักเก็บพลังงานในระยะยาว รวมถึงเป็นฐานความรู้ และความเชี่ยวชาญเพื่อนำไปสู่การพัฒนาศักยภาพบุคคลากรของทั้งสองบริษัทในด้านเทคโนโลยีแบตเตอรี่ โดยมีระยะเวลาดำเนินโครงการสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564
ชวลิต ทิพพาวนิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ GPSC กล่าวว่า “ปตท. ในฐานะผู้ประกอบกิจการด้านพลังงานที่มีสถาบันนวัตกรรมเป็นแกนหลักในการวิจัยและพัฒนา ได้จัดตั้งโครงการ Electricity Value Chain นี้ขึ้นมาเพื่อสนับสนุนกลยุทธ์ทางธุรกิจของ ปตท. ที่มุ่งสู่ธุรกิจใหม่ ขณะที่ GPSC ในฐานะแกนนำการดำเนินธุรกิจไฟฟ้าของ กลุ่ม ปตท. ได้ร่วมลงทุนในบริษัท 24 M Technologies ซึ่งได้รับสิทธิในการใช้ ผลิต และขายแบตเตอรี่ประเภท Semi-Solid ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเฉพาะของ 24M ในไทยและภูมิภาคอาเซียน ภายใต้นโยบาย S-Curves จึงได้เกิดความร่วมมือขึ้นดังกล่าวครับ”
ทางด้าน ชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. กล่าวว่า “ความร่วมมือในครั้งนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์ทางด้านพลังงานของ กลุ่ม ปตท. ที่มุ่งใช้พลังงานไฟฟ้าที่มากขึ้น โดยมีแบตเตอรี่เป็นรากฐาน และเป็นตัวผลักดันที่สำคัญ ซึ่ง ปตท. มีความพร้อมและยินดีเป็นอย่างยิ่งกับความร่วมมือระหว่างกลุ่ม ปตท. และพร้อมจะสนับสนุนการศึกษา พัฒนา และร่วมกันผลักดันเทคโนโลยี Semi-Solid ให้มีประสิทธิภาพที่แข่งขันได้ และต่อยอดไปสู่การผลิตระดับเชิงพาณิชย์”
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการลงนาม 15 วัน ทั้งสองฝ่ายจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลโครงการ (Steering Committee) รวม 7 คน โดยมีประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีและวิศวกรรม ปตท. เป็นประธาน ขณะเดียวกัน ในส่วนของกรรมการอื่น ๆ จะมาจากผู้บริหารระดับสูงของทั้งบริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) และจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เพื่อทำหน้าที่กำกับดูแลความก้าวหน้า และติดตามผลการดำเนินงานวิจัยแบตเตอรี่ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด ซึ่งการดำเนินการในระยะแรก คณะกรรมการฯ จะทำการแต่งตั้งคณะทำงาน เพื่อดำเนินการศึกษาในรายละเอียด ในการหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแบตเตอรี่เทคโนโลยี Semi-Solid โดยจัดทำแผนการก่อสร้าง แผนการควบคุมการผลิตและทดสอบ กำหนดตัวชี้วัด และเกณฑ์การพิจารณา เพื่อเป็นขั้นตอนพิสูจน์ความเป็นไปได้ของเทคโนโลยีทั้งทางด้านเทคนิค และเศรษฐศาสตร์ รวมทั้งจัดทำงบประมาณในการดำเนินการผลิตแบตเตอรี่ เพื่อประกอบการพิจารณาอนุมัติก่อสร้างโรงงานแบตเตอรี่ต้นแบบ (Pilot Plant) ดังกล่าว
นอกจากนั้น ในระยะถัดไป หากทั้งสองฝ่ายตัดสินใจร่วมดำเนินการลงทุนก่อสร้าง Pilot Plant แล้ว จะมีการกำหนดแผนการผลิต และดำเนินการผลิตแบตเตอรี่จากโรงงานต้นแบบตามตัวชี้วัด และเกณฑ์ที่กำหนดไว้ พร้อมมีการส่งมอบแบตเตอรี่ที่ผลิตได้ นำไปสู่การใช้จริง โดยผ่านการทดสอบจากกลุ่มลูกค้า เพื่อนำข้อเสนอแนะจากลูกค้ากลับมาพัฒนาแบตเตอรี่ เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น และร่วมกันพิจารณาถึงความเป็นไปได้ทั้งทางเทคนิค และเศรษฐศาสตร์ในการขยายการผลิตสู่ระดับเชิงพาณิชย์ร่วมกันต่อไป