คอร์แซร์ ชูเทคโนโลยีใหม่ เปลี่ยนขยะเป็นน้ำมันชีวภาพ แก้ปัญหาขยะพลาสติกในไทย


Corsair Group

คอร์แซร์ กรุ๊ป (Corsair Group) ผู้พัฒนาโซลูชั่นธุรกิจด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีฐานการดำเนินงานทั้งในประเทศไทยและเนเธอร์แลนด์ มุ่งหน้าแก้ปัญหาขยะพลาสติก นำเสนอโซลูชั่นสุดล้ำเพื่อร่วมแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกที่กำลังทวีความรุนแรงและส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมทั่วโลก ผ่านการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อเปลี่ยนขยะพลาสติกให้กลายเป็นน้ำมันชีวภาพขั้นสูง (Advanced Bio-oil) ซึ่งสามารถใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเชื้อเพลิงแนวรักษ์โลก ช่วยส่งเสริมการใช้ทรัพยากรหมุนเวียน และลดอัตราการใช้ทรัพยากรใต้พื้นโลกได้อย่างยั่งยืนยิ่งกว่า

คอร์แซร์ยังเป็นพันธมิตรด้านสิ่งแวดล้อมกับองค์กรชั้นนำมากมาย และพร้อมสนับสนุนหน่วยงานต่าง ๆ และรัฐบาลไทย เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำในการสร้างสรรค์อนาคตของโลกที่สะอาดและอากาศที่บริสุทธิ์

Corsair Group

จุสซี เวกโก ซาโลรันตา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร คอร์แซร์ กรุ๊ป อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า ถึงเวลาแล้วที่เราต้องลงมืออย่างจริงจัง หากเราต้องการสร้างความแตกต่างและช่วยเยียวยามลภาวะจากขยะพลาสติกซึ่งเป็นปัญหารุนแรงที่โลกกำลังเผชิญอยู่ ความรับผิดชอบส่วนใหญ่ตกเป็นของบริษัท ผู้ผลิต และรัฐบาล ที่ต้องร่วมกันสร้างความเปลี่ยนแปลง โดยคอร์แซร์ให้ความสำคัญกับการประสานงาน การพัฒนา การจัดหาเงินทุน และการสร้างพันธมิตรกับหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมทั้งของรัฐบาลและเอกชน เพื่อช่วยให้องค์กรเหล่านั้นสามารถลดปริมาณการสร้างขยะและริเริ่มการดำเนินงานที่เป็นมิตรต่อโลกอย่างจริงจัง ซึ่งประโยชน์ในการดำเนินงานเหล่านี้ยังส่งผลถึงการสร้างผลกำไรหรือประโยชน์ต่อองค์กรอีกด้วย

“หากเราร่วมมือกันและนำเทคโนโลยีสมัยใหม่ โซลูชั่นทางวิทยาศาสตร์รุ่นล่าสุด และรูปแบบธุรกิจแนวใหม่ที่มีอยู่ทุกวันนี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ เราจะสามารถร่วมกันสร้างความเปลี่ยนแปลงเพื่ออนาคตที่ดีกว่าได้อย่างแน่นอน” ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร คอร์แซร์ กรุ๊ปฯ กล่าว

Corsair Group

มลภาวะจากขยะพลาสติกกำลังทวีความรุนแรงเข้าขั้นวิกฤตทั่วโลก ซึ่งส่งผลกระทบเกือบทุกแง่มุมของชีวิตเรา นับตั้งแต่น้ำในมหาสมุทรไปจนถึงน้ำที่ใช้บริโภค ตั้งแต่อากาศที่เราหายใจไปจนถึงอาหารที่เรากิน ขยะพลาสติกสามารถสร้างปัญหาลุกลามเข้าสู่ชีวิตความเป็นอยู่ของเราและเข้าสู่ร่างกายของเราได้ในที่สุด ซึ่งนำไปสู่ปัญหาสุขภาพของมนุษย์ซึ่งบางครั้งกลายเป็นโรคภัยที่รุนแรง รวมถึงการทำลายสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติที่มีความสำคัญ จนเป็นสาเหตุของการตายและสูญพันธุ์ของสัตว์หลายสายพันธุ์บนโลก

โดยแนวทางการแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกในปัจจุบันคือการฝังกลบและไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่จากผู้คน ก่อให้เกิดขยะสะสมทั้งบนบกและท้องทะเล ซึ่งสร้างความเสียหายต่อสภาพแวดล้อมมาอย่างต่อเนื่อง คอร์แซร์ได้นำเสนอโซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพมากกว่าในการแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกด้วยการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อเปลี่ยนให้ขยะพลาสติกกลายเป็นน้ำมันชีวภาพขั้นสูง (Advanced Bio-oil) เทียบเท่าน้ำมันดิบ (Crude Oil Equivalent: COE) ซึ่งนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเชื้อเพลิงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า เช่น น้ำมันเบนซินและดีเซล และสำคัญที่สุดคือเป็นผลิตภัณฑ์พลาสติกชิ้นใหม่ ดังนั้น วิธีการนี้จึงสามารถเปลี่ยนวัสดุเหลือทิ้งให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ที่ใช้ประโยชน์ได้จริง พร้อมช่วยลดความจำเป็นในการใช้ทรัพยากรน้ำมันแบบเดิม ๆ ได้อย่างเป็นรูปธรรม

Corsair Group

คอร์แซร์ เป็นเจ้าของและผู้ดำเนินการโรงงานรีไซเคิลขยะพลาสติกให้กลายเป็นน้ำมันและผลิตภัณฑ์เคมีบนเนื้อที่ 6,400 ตารางเมตรในกรุงเทพฯ โดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการเปลี่ยนขยะพลาสติก อาทิ ถุงพลาสติกใช้แล้ว วัสดุห่อหุ้มสินค้า และหีบห่อบรรจุภัณฑ์ ให้กลายเป็นน้ำมันกำมะถันต่ำ โรงงานมีกำลังการผลิตราว 180,000 ลิตรต่อเดือน และจะเพิ่มเป็น 600,000 ลิตรต่อเดือนในปี ค.ศ. 2021 ด้วยการขยายเนื้อที่โรงงานอีก 3,200 ตารางเมตร

ทั้งนี้ มลภาวะจากขยะพลาสติกยังทวีความรุนแรงขึ้นเนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ซึ่งมาพร้อมอุปสงค์ที่เกิดขึ้นทั่วโลกต่อหน้ากากอนามัยและอุปกรณ์ปกป้องสุขภาพส่วนบุคคล ส่งผลถึงการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกและพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งในปริมาณที่เพิ่มมากขึ้น อัตราการผลิตพลาสติกรายปียังคงเพิ่มสูงขึ้น โดยมีรายงานการผลิตทั่วโลกอยู่ที่ 315 ล้านเมตริกตันต่อปี หากแนวโน้มยังคงเป็นเช่นนี้ ภายในปี ค.ศ. 2050 ขยะพลาสติกกว่า 12 พันล้านตันจะทับถมอยู่ในหลุมขยะฝังกลบและปนเปื้อนสู่สิ่งแวดล้อมในธรรมชาติ เฉพาะในประเทศไทยมีการสร้างขยะพลาสติกมากกว่า 2 พันล้านกิโลกรัมต่อปี ซึ่งในปัจจุบันมีการนำไปรีไซเคิลในอัตราน้อยกว่า 10%

“เรามุ่งมั่นอย่างมากในการขจัดมลภาวะจากขยะพลาสติกซึ่งเป็นพิษต่อสภาพแวดล้อมของเมืองไทย คอร์แซร์ กรุ๊ป ยังคงค้นหาผู้คน บริษัท องค์กร และหน่วยงานรัฐบาลที่มีอุดมการณ์เดียวกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมมือกันสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม และเปลี่ยนขยะพลาสติกที่ไร้ค่าให้กลายเป็นทรัพยากรที่สร้างผลกำไรได้อย่างยั่งยืน ปัจจุบัน เราทำงานร่วมกับบริษัทและองค์กรชื่อดังของไทยหลายแห่ง อาทิ ไมเนอร์ กรุ๊ป, เซ็นทารา โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท, ชาเทรียม โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท, โรงเรียนนานาชาติ โชรส์เบอรี่, บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เป็นต้น และยังคงเปิดรับความร่วมมือกับทุกองค์กรที่ต้องการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์อนาคตแห่งสิ่งแวดล้อมที่สะอาดปราศจากมลพิษเพื่อคนรุ่นต่อไปในวันข้างหน้า” จุสซี เวกโก ซาโลรันตา กล่าวสรุป


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เอง โดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save