สวทช.ผนึกพันธมิตร 10 หน่วยงาน พัฒนา “ฐานข้อมูลและตัวชี้วัด” หนุนเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ ขับเคลื่อนไทยสู่ Net Zero และ SDGs


สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรม และภาควิชาการ รวม 10 แห่ง ผนึกความร่วมมือพัฒนาฐานข้อมูลและตัวชี้วัดด้านเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ โดยใช้กลไกการวิจัยและพัฒนาของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เป็นแกนกลาง และร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานพันธมิตร ครอบคลุมทั้งหน่วยงานด้านนโยบาย สถิติ เศรษฐกิจ อุตสาหกรรม สิ่งแวดล้อม และสุขภาพ ได้แก่ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) สำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) และกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.)

นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนด้านสิ่งแวดล้อมและภาคธุรกิจ อาทิ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) มูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดยทุกภาคส่วนจะร่วมกันระดมข้อมูล องค์ความรู้ และแนวทางการดำเนินงาน เพื่อนำไปสู่การจัดทำฐานข้อมูลและตัวชี้วัดที่ตอบโจทย์การพัฒนาเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำและสังคมที่ยั่งยืนในระดับประเทศ

โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูล (Data Infrastructure) ที่ถูกต้อง ครอบคลุม และเชื่อมโยงได้ โดยมุ่งเน้นการสร้างระบบฐานข้อมูลระดับชาติที่สามารถสะท้อนสถานการณ์ด้านการผลิตและบริโภคอย่างยั่งยืน เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศอย่างเป็นรูปธรรม อันจะเป็นประโยชน์ต่อการประเมินประสิทธิภาพเชิงนโยบาย การวางแผนการพัฒนา และการเตรียมพร้อมรับมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมจากต่างประเทศ เช่น มาตรการปรับคาร์บอนก่อนเข้าพรมแดน (Carbon Border Adjustment Mechanism: CBAM) ของสหภาพยุโรป

ศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า สวทช. เป็นขุมพลังหลักของประเทศในการใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (วทน.) เพื่อพัฒนาและสร้างความเข้มแข็งของงานวิจัยและนวัตกรรมให้ตอบโจทย์สำคัญของประเทศ ดำเนินกลยุทธ์ภายใต้แนวคิด “S&T Implementation for Sustainable Thailand” โดยมีสถาบันเทคโนโลยีและสารสนเทศเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (TIIS) ภายใต้ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สวทช. เป็นหน่วยงานขับเคลื่อนแผนงาน “การพัฒนาตัวชี้วัดและฐานข้อมูลด้าน CO2, CE, SDGs เพื่อการค้าและความยั่งยืน” มีบทบาทด้านการวิจัย พัฒนาองค์ความรู้และตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้องกับก๊าซเรือนกระจก (GHGs) เศรษฐกิจหมุนเวียน (CE) และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยมุ่งสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนปี พ.ศ.2573 และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ภายในปี พ.ศ. 2593

“การลงนามความร่วมมือในวันนี้ สวทช. จะมีบทบาทเป็นเลขานุการเครือข่ายร่วมกับ สอวช. และเป็นหน่วยงานวิจัยที่ร่วมดำเนินงานด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การจัดทำฐานข้อมูล และตัวชี้วัดด้านความยั่งยืนและเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำที่สำคัญต่อประเทศ สนับสนุนกระบวนการทำงานและกิจกรรมที่เกิดขึ้น ตลอดจนร่วมผลักดันโจทย์วิจัยที่เกี่ยวข้องและร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นของสมาชิกเครือข่ายฯ เพื่อให้สามารถผลักดันให้ประเทศไทยมีโครงสร้างพื้นฐานที่มีมาตรฐานระดับสากล พร้อมก้าวไปสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ และตอบโจทย์ความต้องการของประเทศได้อย่างแท้จริง” ผู้อำนวยการ สวทช. กล่าว

วรรณภา คล้ายสวน

วรรณภา คล้ายสวน ผู้อำนวยการกองยุทธศาสตร์การพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นการสร้างความร่วมมือวิจัยและพัฒนาฐานข้อมูลและตัวชี้วัดทางด้านเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำของประเทศ ที่สามารถนำไปใช้ในการประเมินระดับการพัฒนาของประเทศ โดยเฉพาะตัวชี้วัดด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศ เช่น ด้านการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน เศรษฐกิจหมุนเวียน ที่ถูกกำหนดเป้าหมายไว้ในหมุดหมายที่ 10 ไทยมีเศรษฐกิจหมุนเวียนและสังคมคาร์บอนต่ำ ภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 อีกทั้งเป็นการตอบสนองต่อความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมระดับโลก เช่น มาตรการของสหภาพยุโรป CBAM (Carbon Border Adjustment Mechanism) ดังนั้นการมีข้อมูลและตัวชี้วัดที่น่าเชื่อถือจะช่วยให้ภาครัฐสามารถตัดสินใจเชิงนโยบายได้อย่างแม่นยำ ทันต่อสถานการณ์ และมีประสิทธิภาพ

รองศาสตราจารย์ เติมศักดิ์ ศรีคิรินทร์

รองศาสตราจารย์ เติมศักดิ์ ศรีคิรินทร์ ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างในระบบข้อมูลของประเทศ ซึ่งเมื่อดำเนินงานไประยะหนึ่ง ทุกฝ่ายจะเริ่มเห็นภาพรวมที่ชัดเจนมากขึ้น และสามารถวางแนวทางการพัฒนาได้ตรงจุดมากขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องรอให้เกิดปัญหาหรือผลกระทบเหมือนที่ผ่านมา รวมถึงการเชื่อมโยงฐานข้อมูลจากภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs ที่จะได้รับการสนับสนุนให้ปรับกระบวนการผลิตสู่แนวทางอุตสาหกรรมสีเขียว และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการนำแนวคิด BCG มาใช้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืน

ในขณะเดียวกัน หน่วยงานด้านวิจัยจะร่วมกันเสนอโจทย์งานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์การลดคาร์บอน โดยอาศัยฐานข้อมูลที่แม่นยำเป็นรากฐานสำคัญ นำไปสู่การจัดทำนโยบายที่ทันต่อสถานการณ์ การขับเคลื่อนครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้าง “กลไกความร่วมมือเชิงระบบ” ที่ทุกฝ่ายมีบทบาท ทั้งการให้ข้อมูล การสนับสนุนองค์ความรู้ การพัฒนาเทคโนโลยี และการสื่อสารเชิงนโยบาย เพื่อร่วมกันพาประเทศไทยก้าวสู่อนาคตที่สมดุลทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม