ดานอน ประเทศไทย จับมือผู้เชี่ยวชาญ เดินหน้าขับเคลื่อนอนาคตอาหารที่ดีต่อสุขภาพและยั่งยืน


ดานอน ประเทศไทย  จัดงาน 2025 Sustainability Press Conference  เพื่อรายงานความก้าวหน้าการดำเนินพันธกิจด้านความยั่งยืนประจำปี 2568  พร้อมเปิดเวทีเสวนา ดึงผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายสาขา ไม่ว่าจะเป็น นักวิชาการด้านนวัตกรรมโภชนาการ การหมุนเวียนทรัพยากรในระบบเศรษฐกิจ และธุรกิจที่รับผิดชอบต่อสังคม ร่วมแลกเปลี่ยนแนวคิดและนำเสนอแนวทางในการขับเคลื่อนอนาคตอาหาร (The Future of Food) ที่ดีต่อสุขภาพ เป็นธรรม และยั่งยืนอย่างแท้จริง

แดนิช ราห์มัน

แดนิช ราห์มัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดานอนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และดานอน ประเทศไทย กล่าวว่า  งานเสวนาในวันนี้สะท้อนถึงพลังของความร่วมมือและเป้าหมายร่วมกันของหลายภาคส่วน ดานอนในฐานะผู้นำด้านโภชนาการเฉพาะทาง ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมด้านโภชนาการ ธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยความรับผิดชอบ หรือการขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน มาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองและร่วมกันกำหนดมาตรฐานใหม่ให้กับอนาคตของระบบอาหารในประเทศไทย

“ด้วยความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญ พันธมิตร และชุมชน เราสามารถร่วมกันออกแบบวิธีการผลิต บริโภค และให้คุณค่ากับอาหารในรูปแบบใหม่ ที่เป็นประโยชน์ทั้งต่อผู้คนและโลกใบนี้ได้จริง ทุกนวัตกรรมและทุกการลงมือทำจะนำพาเราไปสู่อนาคตที่ดีขึ้นสำหรับทุกคน” แดนิช ราห์มัน กล่าว

ดานอน ประเทศไทย

ดานอน ประเทศไทย ยังเปิดเวทีเสวนาร่วมกับผู้ทรงคุณวุฒิจากหลากหลายสาขา เพื่อรับฟังแนวทางจากหลากหลายภาคส่วน เพื่อร่วมสร้างอนาคตอาหารยั่งยืน  โดย รศ.ดร.ธัญญ์นลิน วิญญูประสิทธิ์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ผู้บริโภคชาวไทยเริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น แต่ปัญหาสุขภาพอย่างภาวะโภชนาการที่ไม่เหมาะสมก็ยังคงมีอยู่มาก จากข้อมูลงานวิชาการ มี 4 ปัจจัยหลักที่จะช่วยส่งเสริมให้ผู้บริโภคเลือกบริโภคสินค้าเพื่อสุขภาพได้ง่ายขึ้น 1) ติดฉลากโภชนาการหน้าบรรจุภัณฑ์อย่างชัดเจน 2) ลดน้ำตาลและเกลือในสูตรอาหาร 3) การเสริมอาหารที่จำเป็นสำหรับกลุ่มเป้าหมาย และ 4) การพัฒนานวัตกรรมอาหารที่คำนึงถึงผู้บริโภค

ทั้งนี้ การพัฒนาระบบอาหารของประเทศไทยต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลสุขภาพจริง และการทำงานร่วมกับชุมชน ผู้บริโภค รวมถึงราคาที่เข้าถึงได้ จึงจะเกิดทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพที่สามารถเข้าถึงได้จริงนอกจากนี้ ยังต้องวัดผลและเปิดเผยข้อมูลได้อย่างโปร่งใส เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคม สอดคล้องกับหลักฐานที่เพิ่มขึ้นว่าผู้บริโภคชาวไทยพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลง และยินดีที่จะลงทุนมากขึ้นในผลิตภัณฑ์ที่สะท้อนคุณค่าเหล่านี้

วินเซนต์ เต

วินเซนต์ เต รองประธานฝ่ายโภชนาการเฉพาะทางภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  ดานอน กล่าวว่า หนึ่งในภาวะที่ต้องการการแก้ไขในระดับเร่งด่วนในเด็กเล็ก คือภาวะขาดไมโครนิวเทรียนหรือสารอาหารที่ร่างกายต้องการเพียงเล็กน้อย แต่มีความจำเป็นและสำคัญอย่างยิ่งต่อการทำงานของร่างกาย โดยเฉพาะในช่วง 2,000 วันแรกของชีวิต ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สมองพัฒนาไปกว่า 90% และโภชนาการที่เหมาะสมจะมีผลต่อสุขภาพของเด็กในระยะยาว

ดานอนจึงได้พัฒนาสูตรซินไบโอติก (Synbiotic Formulas) ที่ออกแบบเฉพาะสำหรับสุขภาพลำไส้ของเด็กผ่าคลอด (C-section) ซึ่งมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดอาการแพ้และปัญหาด้านภูมิคุ้มกัน ผ่านการทดสอบทางคลินิก และเป็นสูตรที่พัฒนาขึ้นในประเทศไทย  นอกจากนี้ ดานอนได้วางแนวทางในการจัดการกับภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก (Iron Deficiency Anemia: IDA) ซึ่งเด็กไทยอายุต่ำกว่า 5 ปีมีโอกาสเสี่ยงถึงกว่า 1 ใน 3 ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์สูตรเสริมวิตามินเพื่อเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กถึงสามเท่า

อีเบง ตัน ผู้อำนวยการ B Market Builder SEA หน่วยงานผู้ดูแลการรับรองมาตรฐาน B Corp ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวถึง เทรนด์ธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับจริยธรรมและความโปร่งใสในทุกกระบวนการดำเนินงานว่า   ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เราทำงานกับหลากหลายบริษัท  เช่นดานอน ประเทศไทย ที่มองว่าอาหารไม่ใช่แค่สินค้า แต่คือความรับผิดชอบ เมื่อธุรกิจให้ความสำคัญกับจริยธรรมและความโปร่งใส ขับเคลื่อนนวัตกรรมด้วยค่านิยมที่ดี จะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ยั่งยืนและสร้างความเชื่อมั่นได้มากยิ่งขึ้น

“การที่ดานนอน ประเทศไทย  ได้รับรอง B Crop จึงไม่ได้เป็นเพียงสัญลักษณ์ แต่เป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการวัดและรายงานผลลัพธ์ทางสังคมและสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับผลประกอบการทางธุรกิจ เพราะความรับผิดชอบเป็นสิ่งที่สร้างความไว้วางใจได้ดีที่สุด  เราจึงเชื่อว่ามาตรฐาน B Corp และการรายงานผลอย่างโปร่งใสจะเป็นปัจจัยที่เปลี่ยนให้ความยั่งยืนเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในระยะยาว ไม่ใช่เพียงแค่กระแสชั่วคราว” อีเบง ตัน กล่าว

แนวทางนี้ไม่เพียงสร้างแรงบันดาลใจให้กับองค์กรขนาดใหญ่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงสตาร์ทอัปและผู้ประกอบการท้องถิ่นให้หันมาผสานความยั่งยืนเป็นกลยุทธ์หลักของธุรกิจ และยกระดับมาตรฐานความโปร่งใสและผลกระทบเชิงบวกในภูมิภาคนี้

นอกจากนี้ ดานอน ประเทศไทย ยังร่วมมือกับ กรมอนามัย (DOH) และกรุงเทพมหานคร (BMA) โดยในปีนี้ ดานอนได้สนับสนุนโครงการระดับชาติ ‘เด็กฉลาดด้วยธาตุเหล็ก’ ด้วยการสนับสนุนการตรวจคัดกรองภาวะโลหิตในเด็กทั่วประเทศ ผ่านการให้ยืมอุปกรณ์หาความเสี่ยงภาวะ IDA แบบไม่เจาะเลือด จัดนิทรรศการให้ความรู้ และร่วมวางแนวทางป้องกันภาวะขาดธาตุเหล็กตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ความร่วมมือดังกล่าวสะท้อนถึงความตั้งใจร่วมกันในการทำให้ความเสี่ยงที่มองไม่เห็น กลายเป็นสิ่งที่ป้องกันได้จริง เพื่อให้เด็กทุกคนมีโอกาสเติบโตอย่างแข็งแรงตั้งแต่วันแรกของชีวิต

ศิรพันธ์ วัฒนจินดา

ด้านศิรพันธ์ วัฒนจินดา หรือนุ่น นักแสดงมากความสามารถ ที่มีบทบาทในการสนับสนุนแนวทางการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนได้แบ่งปันมุมมองในฐานะผู้บริโภคว่า ทุกการตัดสินใจของเรา สิ่งที่เราซื้อ ใช้ หรือทิ้ง ล้วนมีผลต่อโลกที่เราอยู่ เมื่อผู้บริโภครู้ว่าทุกการเลือกสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ เราทุกคนก็จะกลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของอนาคตที่ยั่งยืน ผู้บริโภคทุกคนสามารถเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงได้ ไม่ว่าจะเลือกซื้อสินค้าที่ใช้บรรจุภัณฑ์น้อย สนับสนุนแบรนด์ที่ลงทุนด้านความยั่งยืน หรือเพียงตั้งคำถามเกี่ยวกับแหล่งที่มาของอาหาร เพราะการตัดสินใจเล็กๆ เหล่านี้คือแรงผลักดันให้ระบบอาหารของเรายั่งยืนมากขึ้น

“อย่าทำในเรื่องที่ยาก ทำจากสิ่งที่เราชอบ เช่น พกกระบอกน้ำจากศิลปินที่เราชอบ ลดการบริโภค ลดการใช้ เลือกผลิตภัณฑ์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ความยั่งยืนแทรกในทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่น อาหารและไลฟ์สไตล์ และทุกๆการซื้อของเรามีผลกระทบต่อโลก” ศิรพันธ์  กล่าวทิ้งท้าย