BJC BIG C ชูยุทธศาสตร์ความยั่งยืนขับเคลื่อน ESG ในเวทีเสวนา ธรรมศาสตร์เปิดหลักสูตร TU ESG NEXT


BJC BIG C ร่วมเวทีเสวนาในหลักสูตร TU ESG NEXT for Sustainability Leadership มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เผยแนวทางการขับเคลื่อน ยุทธศาสตร์ความยั่งยืน ขององค์กรอย่างครบวงจร ด้วยการสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน ตั้งแต่ธุรกิจรีเทล การผลิตบรรจุภัณฑ์ สินค้าอุปโภคบริโภค ไปจนถึงยาและเครื่องมือแพทย์ พร้อมชูมาตรการ ESG – Environment, Social และ Governance เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความยั่งยืนร่วมกัน

วิจิตรา สุภาคง

วิจิตรา สุภาคง ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารความยั่งยืนและความเสี่ยง BJC BIG C กล่าวว่า การทำความเข้าใจ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders) เป็นหัวใจสำคัญของยุทธศาสตร์ความยั่งยืน เนื่องจาก BJC BIG C ดำเนินธุรกิจหลากหลาย ครอบคลุมทั้งธุรกิจรีเทล การผลิตบรรจุภัณฑ์ สินค้าอุปโภคบริโภค ไปจนถึงยาและเครื่องมือแพทย์ ซึ่งแต่ละกลุ่มมีลักษณะของลูกค้า คู่ค้า และซัพพลายเออร์แตกต่างกัน องค์กรจึงต้องระบุ คีย์สเต็กโฮลเดอร์ (Key Stakeholders) เพื่อให้สามารถเข้าใจ ความคาดหวังและความต้องการ ของแต่ละกลุ่มได้อย่างตรงจุด และสามารถตอบโจทย์ทั้งในเชิงธุรกิจและในมิติ ESG ได้อย่างครบถ้วน  ที่ผ่านมา BJC BIG C ได้วิเคราะห์ Materiality Topics หรือประเด็นสาระสำคัญ ครอบคลุมทั้งด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม โดยแบ่งผู้มีส่วนได้ส่วนเสียออกเป็น 4 กลุ่มหลัก ได้แก่

  1. ผู้บริโภค (Consumers) เป็นกลุ่มสำคัญที่สุดอันดับแรก
  2. คู่ค้าและซัพพลายเออร์ (Partners & Suppliers)
  3. พนักงานและบุคลากรภายในองค์กร
  4. ชุมชนและสังคมในพื้นที่ที่ธุรกิจดำเนินงานอยู่

โดยเฉพาะชุมชนถือเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียสำคัญ เนื่องจาก BIG C มีสาขาทั่วประเทศ การเข้าใจมุมมองของชุมชนจึงเป็นสิ่งจำเป็น ตัวอย่างเช่น ในอดีตเมื่อมีการไปเปิดสาขาใหม่ ชุมชนอาจกังวลว่าธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่จะเข้ามาแย่งลูกค้าจากร้านโชห่วยในท้องถิ่น  แต่ BJC BIG C เลือกแนวทาง ร่วมมือแทนการแข่งขัน ด้วยการจับมือกับร้านโชห่วยในชุมชน ผ่านการให้คำปรึกษาเรื่องมาตรฐานการจัดการร้านค้า เช่น วิธีการนับสต็อก การคำนวณต้นทุน และการบริหารจัดการระบบร้านค้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ผลลัพธ์คือ ร้านโชห่วยยังคงอยู่คู่กับชุมชนได้อย่างเข้มแข็ง และเมื่อมีระบบบริหารจัดการที่ดีขึ้น ร้านค้าก็สามารถกลับมาเป็นลูกค้าของ BIG C สั่งสินค้าผ่านช่องทางของบริษัท กลายจาก คู่แข่ง เป็น พันธมิตรทางธุรกิจ ที่เติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน

และอีกตัวอย่างหนึ่งคือ การทำงานร่วมกับ ซัพพลายเออร์ภาคเกษตร ซึ่งในอดีตเกษตรกรมักต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง ทำให้ไม่ได้ราคาที่เป็นธรรม BJC BIG C จึงเข้าไปเชื่อมโยงโดยตรง พร้อมให้ข้อมูลและองค์ความรู้ด้านการปลูกพืชตามมาตรฐาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและมูลค่าผลผลิต นอกจากนี้ยังขยายความร่วมมือไปยัง ผู้ประกอบการ SME จัดอบรมเรื่องการลดการปล่อยคาร์บอนในกระบวนการผลิต เพื่อให้ธุรกิจพัฒนาไปสู่ ธุรกิจสีเขียว และแข่งขันได้ในตลาดอนาคต

ทั้งนี้ ในภาคการผลิต BJC BIG C ยังมุ่งเน้น เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) โดยเฉพาะในธุรกิจผลิตแก้ว เริ่มตั้งแต่การออกแบบสายการผลิตให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ใช้พลังงานไฟฟ้า 100% แทนก๊าซธรรมชาติ เพื่อลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ให้ได้มากที่สุด พร้อมดำเนินโครงการร่วมกับ “รถซาเล้ง” ทั่วประเทศ เพื่อเก็บแก้วใช้แล้วกลับมาเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลอย่างเป็นระบบ

BJC BIG C ชูยุทธศาสตร์ความยั่งยืนขับเคลื่อน ESG  ในเวทีเสวนา ธรรมศาสตร์เปิดหลักสูตร TU ESG NEXT

วิจิตราฯ กล่าวทิ้งท้าย ถึงหลักสูตร TU ESG NEXT ขับเคลื่อน ESG ความยั่งยืน ในครั้งนี้เป็นหลักสูตรที่น่าใจและมีคุณค่า เพราะเปิดมุมมองให้เห็นว่า การสร้างความยั่งยืนต้องเริ่มจาก “เรา” ก่อน เมื่อทุกคนและทุกภาคส่วนร่วมมือกัน จะเกิดพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง และเมื่อภาคธุรกิจทั้งหมดใน Ecosystem ขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกันด้วยหลัก ESG ย่อมสร้างประโยชน์ร่วมกันให้กับเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

BJC BIG C ชูยุทธศาสตร์ความยั่งยืนขับเคลื่อน ESG  ในเวทีเสวนา ธรรมศาสตร์เปิดหลักสูตร TU ESG NEXT

BJC BIG C ชูยุทธศาสตร์ความยั่งยืนขับเคลื่อน ESG  ในเวทีเสวนา ธรรมศาสตร์เปิดหลักสูตร TU ESG NEXT

หลักสูตร TU ESG NEXT จึงเป็นเวทีสำคัญในการสร้าง ผู้นำองค์กรที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล ยั่งยืน และสามารถส่งมอบประโยชน์ต่อสังคม ในระยะยาว ทั้งในมิติของธุรกิจ การบริหารจัดการทรัพยากร และการสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย