ร้าน PUFF & PIE จับมือโครงการพัฒนาดอยตุง มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดตัวกาแฟทางเลือกใหม่ภายใต้แนวคิด “From Farm to Cup – ดื่มด่ำกาแฟจากผืนป่าสู่มือคุณ” เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ชื่นชอบกาแฟคุณภาพสูง ควบคู่กับการใส่ใจสิ่งแวดล้อม เมื่อเร็วๆ นี้ ณ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่
โดยมี ชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วยวรางคณา ลือโรจน์วงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่หน่วยธุรกิจการบิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และ ประเสริฐ ตรงเจริญเกียรติ ประธานสายปฏิบัติการธุรกิจเพื่อสังคม มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมแสดงเจตนารมณ์ในการเปิดตัวความร่วมมือครั้งนี้
ชาย เอี่ยมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในฐานะคนไทยคนหนึ่งได้มีโอกาสไปท่องเที่ยวโครงการดอยตุงเมื่อหลาย10 ปี และล่าสุดเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว ได้มีโอกาสไปอีกครั้ง ทำให้เห็นการเปลี่ยนแปลง และเห็นว่ามูลนิธิแม่ฟ้าหลวงได้สร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สังคม โดยเฉพาะเกษตรกร
โดย Pain Point หรือสิ่งที่ผลิตภัณฑ์ไทยในอดีตได้รับการแก้ไขหลายจุด เช่น ก่อนหน้านี้เราเคยใช้เมล็ดกาแฟที่เป็น
กระป๋องไม่สามารถไปเสิร์ฟบนเครื่องบิน แต่โครงการดอยตุงสามารถพัฒนาบรรจุภัณฑ์เพื่อให้บริการบนเครื่องได้
นี่คือตัวอย่าง ของการร่วมมือพัฒนา เพิ่มโอกาสทั้งการบินไทยและผู้ให้บริการ ผู้ผลิตในท้องถิ่นในไทย ซึ่้งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของการบินไทย ที่จะให้บริการด้วยอัตลักษณ์ความเป็นไทย และการบินไทยยังปฏิบัติตามข้อนี้มาโดยตลอด
“ต่อจากนี้ผลิตภัณฑ์หลายๆอย่างจะเห็นว่ามาจากผู้ผลิตในไทยPain Point ร่วมมือกันแก้ไขและพัฒนา จะได้ประโยชน์ร่วมกันทั้ง Ecosystem โดย“กาแฟซิกเนเจอร์” และ “เบเกอรี่เมนูพิเศษ” ที่เราร่วมกันสร้างสรรค์ ไม่ได้เป็นเพียงเมนูใหม่ที่จะจัดจำหน่าย แต่คือการต่อยอดแนวคิดเพื่อโลกที่ยั่งยืน โดยผสมผสานเอกลักษณ์ของการบินไทยเข้ากับ Carbon Neutral Coffee ของดอยตุง และวัตถุดิบที่สะท้อนความภาคภูมิใจของชุมชน นี่คือสัญลักษณ์ของความร่วมมือที่สร้างทั้งรสชาติที่ดี และคุณค่าที่ดีต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมในเวลาเดียวกัน” ชาย กล่าว
สำหรับเมล็ดกาแฟที่นำมาใช้เป็นอาราบิก้า 100% จากดอยตุง ซึ่งโดดเด่นด้วยรสชาติโทนนัตตี้และช็อกโกแลตที่หอมละมุน ที่สำคัญยังผ่านกระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และได้รับการรับรองว่าเป็น “Carbon Neutral Coffee” โดยมีการตรวจวัดและชดเชยปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างครบถ้วนตลอดห่วงโซ่การผลิต
“การคัดสรรเมล็ดกาแฟอย่างพิถีพิถันจนถึงขั้นตอนการเสิร์ฟในทุกแก้ว สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของทั้ง PUFF & PIE และ โครงการพัฒนาดอยตุง ที่ต้องการสนับสนุนเกษตรกร อนุรักษ์ธรรมชาติ ควบคู่ไปกับดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม” ชาย กล่าว
นอกจากโครงการนี้ ก่อนหน้านี้เรามี Black Silk Blend ให้บริการในชั้นธุรกิจสำเร็จในเส้นทางยุโรป รวมทั้งออสเตรเลีย ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ตั้งแต่มีนาคม 2568 ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้โดยสาร สิ่งเหล่านี้จะสะท้อน การที่ทำสิ่งด้วยหัวใจของคนทำงานจริงๆ สร้างความประทับใจและคุณค่า
ด้านประเสริฐ ตรงเจริญเกียรติ ประธานสายปฏิบัติการธุรกิจเพื่อสังคม มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์
กล่าวว่า เรามีการตั้งแต่คัดเลือก พัฒนาสายพันธุ์ ปลูกและดูแลจนได้เมล็ดกาแฟ เข้ามาแปรรูปและส่งผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้า รวมทั้ง PUFF& PIE นอกจากจะมีส่วนร่วมส่งเสริมเกษตรกรไทยได้พัฒนาสายพันธุ์ มีรายได้มั่นคง ร้านPUFF& PIE ได้ใช้กาแฟไทย 100% แสดงถึง Local Sourcing ของการบินไทยที่ให้ความสำคัญในเรื่องนี้มาก
ที่สำคัญ ปัจจุบันสูตรกาแฟที่ PUFF& PIE เลือกใช้เป็น Carbon Footprint Product หมายถึงว่าดอยตุงได้ตรวจประเมินการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของกาแฟทุกถุง ทางดอยตุงจะจัดหา Carbon Neutral มาชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทุกกิโลกรัมที่ PUFF& PIE ใช้เป็นที่มาของ Carbon Neutral Coffee กาแฟที่PUFF& PIE ใช้จะมีค่าความเป็นกลางทางคาร์บอน เป็นการยกระดับคุณภาพของ PUFF& PIE ไปอีกขั้นหนึ่งด้านการดูแลและห่วงใยสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
“นอกจากช่วยเหลือเกษตรกร พัฒนาชุมชนให้เข้มแข็งแล้ว อันนี้เป็นนโยบายที่สอดคล้องของทั้งสององค์กรทั้งการบินไทยและมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ที่ให้ความสำคัญเรื่องสิ่งแวดล้อมและชุมชนที่เข้มแข็ง หวังว่าการร่วมมือในครั้งนี้เราจะร่วมเป็นพันธมิตรกับ PUFF& PIE และการบินไทยในระยะยาว นอกจากกาแฟแล้วยังเลือกน้ำผึ้ง เมล็ดแมคคาดีเมียรังสรรค์เมนูและเบเกอรี่โดยฝีมือของเชฟ จะเป็นสิ่งที่ลูกค้าพึงพอใจในอนาคต ทำให้ PUFF& PIE มีรายได้และสามารถขยายสาขาได้ในอนาคต” ประเสริฐ กล่าว
เพื่อฉลองโครงการนี้ PUFF & PIE และ ดอยตุง ได้ร่วมกันเปิดตัว Signature Menu 5 เมนูพิเศษ ที่ผสมผสานวัตถุดิบคุณภาพเข้ากับกาแฟอาราบิก้าอย่างลงตัว เริ่มด้วยเมนู “Coco Coff on Cloud” ซึ่งนำเอสเปรสโซเข้มข้นมาผสานกับความหอมนุ่มของครีมมะพร้าวและฟองนมอัญชันสีฟ้า เสิร์ฟตั้งแต่เดือนตุลาคม 2568 เป็นต้นไป โดยจะมีเมนูใหม่ทยอยเปิดตัวจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2569
นอกจากนี้ ยังมีการเปิดตัวเบเกอรี่คอลเลคชั่น “Siam’s Treasures” ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากขนมไทยดั้งเดิมมาผสมผสานกับศาสตร์การทำขนมแบบตะวันตก อาทิ Siam Honey Crown ทาร์ตแมคคาเดเมียคาราเมลน้ำผึ้ง, Midnight Mocha Jewel เค้กมอคค่าเข้มข้นเคลือบดาร์กช็อกโกแลต และ Siam’s Molten Heart คุกกี้บราวนี่เนื้อหนึบไส้ช็อกโกแลตกรานาช
