จากสถานการณ์แม่น้ำกกที่กำลังเผชิญกับความเสี่อมโทรมของคุณภาพน้ำ โดยมีสาเหตุมาจากปัญหาการปนเปื้อนของโลหะหนักและสารหนูจากการทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ธในรัฐฉานและรัฐคะฉิ่น ในประเทศเมียนมาร์ ซึ่งสารปนเปื้อนดังกล่าวเข้าไปสะสมในสิ่งแวดล้อมและส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ รวมถึงสุขภาพของประชาชนที่อาศัยในลุ่มแม่น้ำกก ในจังหวัดเชียงราย
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) ภายใต้ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จึงลงนามความร่วมมือด้านการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) กับกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) มุ่งเน้นการบริหารจัดการคุณภาพอากาศ (PM2.5) และคุณภาพน้ำ นำร่องใช้นวัตกรรมตรวจวัดและพัฒนาคุณภาพน้ำ ร่วมแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำในพื้นที่แม่น้ำและลุ่มน้ำกก เพื่อขับเคลื่อนงานวิจัยให้เข้าถึงประชาชน แก้ไขปัญหาสำคัญของประเทศอย่างยั่งยืน

ศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า สวทช. เป็นกลไกหลักของประเทศในการใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) ขับเคลื่อนความเข้มแข็งของระบบนิเวศวิจัยและนวัตกรรม เพื่อแก้ปัญหาและตอบโจทย์สำคัญของประเทศ ภายใต้แนวคิด “S&T Implementation for Sustainable Thailand” หรือ “การพัฒนา วทน. เพื่อประเทศไทยยั่งยืน” โดยมุ่งสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ เพิ่มการพึ่งพาตนเอง ลดความเหลื่อมล้ำ และรักษาสิ่งแวดล้อม
“ความร่วมมือครั้งนี้เป็นการนำงานวิจัยด้านสิ่งแวดล้อมไปสู่การใช้ประโยชน์จริง เสริมพลังระหว่างหน่วยงานให้เกิดผลลัพธ์ที่มากกว่าเดิม และขับเคลื่อนนวัตกรรมให้เข้าถึงประชาชนได้อย่างแท้จริง” ศ.ดร.ชูกิจ กล่าว

ดร.อุรชา รักษ์ตานนท์ชัย ผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) กล่าวว่า ที่ผ่านมา สวทช. โดยนาโนเทค ได้ร่วมกับกองจัดการคุณภาพน้ำ กรมควบคุมมลพิษ และสำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษ (สคพ.) วางแนวทางพัฒนานวัตกรรมเพื่อสนับสนุนภารกิจด้านคุณภาพน้ำ ภายใต้แผนบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ปี 2566–2567 ซึ่งจะช่วยเพิ่มการเข้าถึงน้ำสะอาดให้มากกว่า 24,000 ครัวเรือนในปี 2568 และเตรียมขยายผลในพื้นที่อื่นต่อไป โดยมุ่งเน้นการนำนวัตกรรมตรวจวัดและบำบัดน้ำไปใช้ในระดับชุมชน เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน

“สำหรับพื้นที่ลุ่มน้ำกก อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในพื้นที่เสี่ยงต่อการปนเปื้อนโลหะหนักจากกิจกรรมเหมืองแร่ในพื้นที่ต้นน้ำ สวทช. ได้ร่วมกับ สคพ. 1 เชียงใหม่ ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างน้ำเพื่อตรวจวิเคราะห์การปนเปื้อนโลหะหนัก เช่น แคดเมียม ตะกั่ว ปรอท และสารหนู โดยใช้นวัตกรรมเซ็นเซอร์เคมีไฟฟ้า “Chem Sense” ซึ่งสามารถวิเคราะห์และแสดงผลได้ทันทีในพื้นที่ โดยผลตรวจสอดคล้องกับการวิเคราะห์ด้วยวิธีมาตรฐานในห้องแล็บ ยืนยันประสิทธิภาพของเทคโนโลยีในการเป็นเครื่องมือคัดกรองเชิงรุกสำหรับการเฝ้าระวังและแก้ไขปัญหามลพิษทางน้ำในลุ่มน้ำกกได้อย่างมีประสิทธิภาพ” ผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทค กล่าว

นอกจากนี้ เทคโนโลยี Chem Sense ยังอยู่ระหว่างการต่อยอดให้สามารถตรวจวัดสารปนเปื้อนอื่น ๆ และประยุกต์ใช้ในระบบติดตามคุณภาพน้ำแบบเรียลไทม์ เพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในระดับนโยบาย และเป็นกลไกสำคัญที่เชื่อมโยงระหว่างวิทยาศาสตร์กับการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมเชิงพื้นที่ โดยเฉพาะในชุมชนที่เปราะบางต่อมลพิษ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
เช่นเดียวกับการบริหารจัดการคุณภาพอากาศ (PM2.5) ก็เป็นโจทย์สำคัญของประเทศ ที่ สวทช. พร้อมจะทำงานร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเห็นการใช้ประโยชน์จากการวิจัยและพัฒนาไปใช้ขยายผลเพื่อการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมที่สร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคมต่อไป