กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย ได้จัดพิธีเปิดศูนย์การเรียนรู้ต้นแบบการจัดการขยะครบวงจร ชุมชนเกาะกลาง เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะกลางคลองพระโขนง โดยเป็น ชุมชนเกาะ เพียงแห่งเดียวในกรุงเทพฯ พร้อมเปิดให้ชุมชนและหน่วยงานต่าง ๆ เข้ามาศึกษาดูงาน เพื่อนำแนวทางไปปรับใช้ ช่วยหยุดขยะต่าง ๆ ไม่ให้หลุดรอดออกสู่สิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ชุมชนเกาะกลางเป็นชุมชนเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี ในเขตคลองเตย มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 270 คนใน 58 หลังคาเรือน บนเนื้อที่เกาะประมาณ 3 ไร่ กลางคลองพระโขนง โดยพื้นที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ปัจจุบันเป็นตัวอย่างนำร่องของชุมชนจัดการตนเอง โดยใช้ชีวิตอย่างพอเพียง สร้างอาชีพในครัวเรือน ผลิตสินค้าใช้เองบนเกาะเพื่อลดรายจ่าย และยังให้ความสนใจในการรักษาสิ่งแวดล้อม จึงได้จัดทำโครงการขยะครบวงจร เพื่อสร้างรายได้เสริม และเพิ่มเติมสวัสดิการในชุมชนจากการขายขยะ พร้อมต่อยอดเป็นศูนย์การเรียนรู้ เพื่อขยายผลสู่ชุมชนอื่น ๆ
นายสุพจน์ เกตุโตประการ ผู้อำนวยการผ่ายธุรกิจ กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (DOW) กล่าวว่า กลุ่มบริษัทดาว ประเทศไทย มีเป้าหมายด้านความยั่งยืนในการต้านโลกร้อน หยุดขยะพลาสติก และส่งเสริมวงจรรีไซเคิลเพื่อเป็นการสนับสนุนการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่า ตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ผ่านการสร้างต้นแบบและความร่วมมือกับหน่วยงานและชุมชนที่มีแนวคิดแบบเดียวกัน โดยเราได้พบว่าชุมชนเกาะกลาง เป็นชุมชนบ้านใกล้เรือนเคียงกับสำนักงานใหญ่ของดาว ที่มีความตั้งใจจะพัฒนาบ้านของตนเองให้เป็นพื้นที่ที่น่าอยู่ มีผู้นำที่เข้มแข็งและให้ความสำคัญเรื่องการจัดการขยะตั้งแต่ต้นทาง และพร้อมที่จะเผยแพร่ความรู้ให้กับชุมชนอื่น ๆ จึงเป็นที่มาของความร่วมมือจนนำมาสู่ความสำเร็จในครั้งนี้
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือของ DOW กับสำนักงานเขตคลองเตยและสถาบันการจัดการบรรจุภัณฑ์และรีไซเคิลเพื่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการบรรจุภัณฑ์มาเป็นผู้ให้คำปรึกษาในการทำโครงการ โดยร่วมกับชุมชนออกแบบโครงสร้างการบริหารจัดการขยะ ออกเป็น 4 กลุ่มหลัก ตามประเภทของขยะที่เกิดขึ้นในชุมชน ประกอบไปด้วย 1. กลุ่มจัดการขยะอินทรีย์ 2. การจัดการวัสดุรีไซเคิล 3. การจัดการขยะทั่วไป 4. การจัดการขยะอันตราย โดยมีการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อการจัดจำหน่าย หรือส่งต่อให้กับสำนักงานเขตคลองเตย เพื่อการจัดจำหน่าย หรือส่งต่อให้กับสำนักงานเขตคลองเตยเพื่อกำจัดอย่างถูกวิธี โดยเริ่มดำเนินการปรับปรุงพื้นที่ตั้งแต่เดือนมกราคม 2563 เป็นต้นมา
“DOW ได้ร่วมมือกับ TIPMSE เข้าไปสนับสนุนและส่งเสริมองค์ความรู้ในการบริหารจัดการขยะแบบครบวงจร ทั้งการจัดฝึกอบรมให้ความรู้ประเภทของพลาสติก วิธีการคัดแยกชนิดของพลาสติกที่ถูกต้องตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงกระบวนการรีไซเคิล รวมถึงวางระบบการแบกขยะให้ชัดเจนขึ้น และมีการปรับปรุงพื้นที่ให้เรียบร้อยเหมาะสมแก่การแยกขยะรวมถึงประสานงานกับองค์กรต่าง ๆ ที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในการรับซื้อขยะ ไปสู่กระบวนการใช้ประโยชน์ในภาคส่วนต่าง ๆ ซึ่งขณะนี้ DOW อยู่ระหว่างประสานงานกับเขตคลองเตย เพื่อวางระบบการเข้ารับขยะพลาสติกยืด สะอาด ที่ชุมชนได้แยกแล้ว เพื่อสามารถนำกลับมารีไซเคิลสู่กระบวนการผลิต”
นอกจากนี้ DOW ยังได้ร่วมกับชุมชนวางระบบโครงสร้างทางบัญชี เพื่อให้การจัดสรรรายได้กระจายให้ถึงทุกคนในชุมชน ภายใต้โครงการดังกล่าว โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ รายได้จากการจัดการขยะ และ รายได้จากการให้บริการจัดการเข้ามาศึกษาดูงานจากหน่วยงานและชุมชนอื่น ๆ ขณะเดียวกันยังได้นำนวัตกรรมเข้ามาอำนวยความสะดวกในการสื่อสารราคารับซื้อและจัดเก็บรวบรวมข้อมูลการซื้อขายขยะในชุมชน ด้วยแอพพลิเคชั่นที่มีชื่อว่า O.K. Recycle
ทั้งนี้ จากขยะทั้งหมดพบว่ามีขยะพลาสติกคิดประมาณ 18% แบ่งขยะพลาสติกส่วนที่ขายไม่ได้อยู่ที่ 26% และพลาสติกส่วนที่รีไซเคิลและขายได้มากถึง 74% ซึ่งจะเห็นได้ว่าเป็นโอกาสการสร้างรายได้คืนให้กับชุมชน รวมถึงสวัสดิการต่าง ๆ เช่น กองทุนฌาปนกิจ และสำหรับใช้จ่ายซ่อมแซมพื้นที่ส่วนกลางของชุมชน