กรุงเทพฯ – 18 พฤศจิกายน 2564 : บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์เอ็มจีในประเทศไทย แนะนำ NEW MG EP PLUS ที่เพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งาน ตอกย้ำภาพรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ใช้งานได้จริงมากขึ้น
พงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เอ็มจีรู้สึกภูมิใจที่ปัจจุบันคนไทยมีความคุ้นชินและหันมาสนใจรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นับตั้งแต่เอ็มจีเริ่มบุกเบิกตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยด้วยการแนะนำรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นแรกของเอ็มจีออกสู่ตลาดเมื่อ 2 ปีก่อน จนถึงปัจจุบันเอ็มจีก็ยังคงเดินหน้าแนะนำรถยนต์พลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดและเดินหน้าผลักดันการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่างเอาจริงจังมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการพัฒนาด้านการ บริการหลังการขายที่ครอบคลุมทั้งการบริการและดูแลรักษารถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบครบวงจรทั่วประเทศ ตลอดจนการลงทุนขยายสถานี MG Super Charge โดยปัจจุบันมีอยู่กว่า 119 แห่ง และมีแผนจะขยายเพิ่มเติมอีกกว่า 500 แห่งในเร็วๆนี้ เพื่อสร้างความสะดวกสบายและเสริมความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้า
สำหรับ NEW MG EP PLUS เป็นการยกระดับการเป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่สามารถใช้งานได้จริงให้ชัดเจนยิ่งขึ้นจาก MG EP รุ่นปกติ ซึ่งยังคงสะท้อนมาตรฐานขั้นต้นของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยที่ไม่ใช่มีดีแค่ดีไซน์ แต่จะต้องตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายได้อย่างแท้จริง ใน 4 ด้านหลักๆ ได้แก่
- ด้านมิติตัวถังและพื้นที่การใช้งาน (Dimension) ขนาดใหญ่และภายในกว้างขวางสามารถบรรทุกได้ทั้งคนและของ ได้อย่างเต็มที่กับจุดเด่นของการเป็นรถประเภทสเตชั่นแวกอนที่มีพื้นที่บรรจุสัมภาระสูงสุดถึง 1,456 ลิตร
- ด้านความสะดวกสบายและระบบความปลอดภัย (Convenience & Safety) ที่ครบครันทั้งฟังก์ชั่นและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกพร้อมการติดตั้งระบบกรองอากาศ PM 2.5 ที่สามารถดักจับและป้องกันฝุ่นละอองอนุภาคเล็กภายในห้องโดยสาร และแผ่นปิดห้องเครื่องด้านหน้า เพิ่มความเรียบร้อยและสะดวก
- ด้านสมรรถนะของ EV (EV Performance) ชูจุดเด่นของการขับขี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้า กับแรงบิดสูงสุดที่มาตั้งแต่ต้น ทำให้เร่งได้แบบทันใจ ไม่ต้องรอรอบ สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ได้ในเวลา เพียง 8.8 วินาที และด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ทำให้วิ่งได้ไกลถึง 380 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง
- ด้านความคุ้มค่าในการเป็นเจ้าของ (Value) ด้วยค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและค่าบำรุงรักษาที่ต่ำช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ในระยะยาวโดยมีค่าใช้จ่ายการชาร์จไฟฟ้าตั้งแต่ 0-100% เฉลี่ยเพียง 200 บาท หรือเฉลี่ยค่าใช้จ่ายไม่ถึง 1 บาท ต่อกิโลเมตร จึงทำให้ประหยัดกว่ารถยนต์น้ำมัน กว่า 2-3 เท่า ในเรื่องของการดูแลรักษา ค่าใช้จ่ายในการเช็คระยะตลอดระยะทาง 100,000 กิโลเมตร อยู่ที่ประมาณ 7,828 บาทเท่านั้น
นอกจากนี้ MG EP ยังถือเป็นรถพลังงานไฟฟ้าที่มีมาตรฐานระดับสากล ที่วางจำหน่าย ในประเทศโซนยุโรปหลายประเทศ NEW MG EP PLUS มีสีตัวถังให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีขาว (Arctic White) สีเงิน (Metallic Grey) และสีดำ (Black Knight)
พร้อมกันนี้ เอ็มจียังได้เปิดโอกาสให้คนไทย ได้สัมผัสและทดลองขับทั้งรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% อย่าง MG EP พร้อมด้วยรถปลั๊กอินไฮบริดอย่าง MG HS PHEV ในกิจกรรม “Charge your day, Change your life” ที่ศูนย์สร้างประสบการณ์การขับขี่รถยนต์ MG Driving Experience Centre ถนนศรีนครินทร์ และโชว์รูมเอ็มจีกว่า 150 แห่งทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 21 พฤศจิกายน ศกนี้