ในภาวะปัจจุบัน สภาพแวดล้อมและความเป็นอยู่ที่เปลี่ยนแปลงไป ประกอบกับประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย มีความจำเป็นต้องให้ความใส่ใจและดูแลผู้สูงวัยในเรื่องของสุขภาพมากขึ้น การป้องกันและลดความเสี่ยงต่อโรคภัยไข้เจ็บจึงเป็นเรื่องสำคัญ การฉีดวัคซีนเพื่อการป้องกันโรคต่าง ๆ ย่อมเป็นทางเลือกที่ดี วัคซีนที่มีความจำเป็นสำหรับผู้สูงอายุที่อายุเกิน 60 ปี มีอยู่ 5 โรค ดังต่อไปนี้
1.) วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ในสังคมเมือง การระบาดของโรคทางเดินหายใจ และที่พบบ่อยคือไข้หวัดและการแพ้อากาศ ด้วยมลภาวะในอากาศที่หายใจปัจจุบัน ทั้งในเรื่องของควันพิษ ฝุ่น PM2.5 และอากาศที่เปลี่ยนแปลง ผู้สูงอายุมีโอกาสแพ้อากาศหรือเป็นไข้หวัดได้ง่าย การฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงต่อโรคเป็นอย่างดี ควรจะฉีดป้องกันทุกปีได้ และดูแลสุขภาพให้แข็งแรง จะให้ผลดีต่อร่างกาย
2.) วัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบ เชื้อโรคที่มากับอากาศและก่อให้เกิดโรคทางเดินหายใจ คือ โรคปอดอักเสบ การติดเชื้อที่มีผลต่อปอดและเกิดการอักเสบ มักทำให้ผู้สูงอายุมีสภาพร่างกายที่อ่อนแอและลุกลามเป็นภาวะน้ำท่วมปอด รวมถึงภาวะแทรกซ้อนรุนแรงและเป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ ดังนั้นวัคซีนปอดอักเสบเป็นตัวช่วยป้องกันและลดการเสี่ยงโรคได้เป็นอย่างดี ควรฉีดวัคซีนทุก 1 ปี
3.) วัคซีนป้องกันโรคงูสวัด งูสวัดเกิดจากเชื้อไวรัสที่เข้าสู่ร่างกายจากอาหารหรือน้ำดื่มที่ปนเปื้อนเชื้อนี้ หรือเป็นภาวะแทรกซ้อนจากโรคอีสุกอีใส มีอาการเป็นตุ่มพุพองที่ผิวหนัง ปวดแสบปวดร้อน และมีการอักเสบตามแนวของเส้นประสาทใต้ผิวหนัง แม้อาการพุพองของผิวหนังดีขึ้น แต่การอักเสบของเส้นประสาทมีอยู่ หากทำลายเส้นประสาทที่สำคัญของร่างกาย เช่น กล้ามเนื้อระหว่างซี่โครง มีโอกาสเกิดระบบการหายใจล้มเหลว ผู้ป่วยเสียชีวิต ควรฉีดวัคซีนนี้เพื่อป้องกันและลดความรุนแรงของอาการโรคได้เป็นอย่างดี วีคซีนป้องกันโรคงูสวัดควรฉีดทุก 8-10 ปี
4.) โรคคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก ทั้ง 3 โรคนี้ สามารถก่ออันตรายกับเด็กแรกเกิดได้ มักจะทราบว่าเด็กแรกกิดจะได้รับวัคซีนป้องกันคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก และในผู้สูงอายุควรฉีดวัคซีนนี้เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงของโรคได้ โดยฉีดทุก 10 ปี
5.) วัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบเอและไวรัสตับอักเสบบี เชื้อไวรัสนี้มักมากับอาหารและน้ำดื่มไม่สะอาด และมีเชื้อปนเปื้อนและก่อปฏิกิริยาที่ตับ ก่อให้เกิดการอักเสบที่รุนแรง รวมถึงผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ และในผู้สูงวัย มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อนี้ จึงควรจะฉีดวัคซีนนี้เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะตับอักเสบและการพัฒนาสู่สภาพตับแข็ง และเป็นมะเร็งตับในที่สุด วัคซีนนี้ควรฉีดปีละ 1 ครั้ง และก่อนจะฉีดวัคซีนนี้ควรจะตรวจเลือดว่ามีภูมิต้านโรคไวรัสตับอักเสบหรือไม่ โดยฉีดต่อเนื่องทั้งหมด 3 เข็ม เมื่อฉีดเข็มแรกแล้ว เข็มที่ 2 ควรห่างออก 1 เดือนให้หลังจึงฉีด และเข็มที่ 3 ห่างออกไปอีก 6 เดือนจึงฉีดให้ครบ การป้องกันและลดความเสี่ยงต่อภาวะไวรัสตับอักเสบ ต้องดูแลสุขภาพให้แข็งแรงด้วย
นอกจากนี้ ยังมีวัคซีนที่ป้องกันโควิด-19 อีกเป็นวัคซีนเข็มที่ 6 ที่ควรฉีด แต่เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 สงบไปมากแล้ว ควรปรึกษาแพทย์ที่ดูแลสุขภาพเพื่อความเหมาะสม
สรุป การฉีดวัคซีนที่จำเป็นนี้ เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงต่อโรคร้ายที่จะเกิดกับผู้สูงอายุได้เป็นอย่างดี
ที่มา: หมอโฆษิต