บริษัท ยูนิแอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องปรับอากาศโดยคนไทย ภายใต้แบรนด์ “ยูนิแอร์” (UNI-Aire) ถือเป็นแบรนด์ไทยในธุรกิจเครื่องปรับอากาศที่เก่าแก่ที่สุด โดยผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุก Segment ในตลาด ทั้งประเภทที่อยู่อาศัย อาคารพาณิชย์ และโรงงานอุตสาหกรรม ได้รับการยอมรับในระดับสากล
ดร. ณรัณ ศิริสันธนะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูนิแอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตและส่งออกเครื่องปรับอากาศอันดับ 2 ของโลกรองจากจีน ด้วยความเชื่อมั่นในศักยภาพการผลิตของไทย โดยในส่วนของยูนิแอร์เอง ไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนานวัตกรรมขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้า เริ่มตั้งแต่กระบวนการผลิตและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นเทรนด์ที่ภาคอุตสาหกรรมทั่วโลกให้ความสนใจ ที่ผ่านมาได้ให้ความสำคัญกับงานวิศวกรรมและเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก เนื่องด้วย ยูนิแอร์ เติบโตมาจากกลุ่มวิศวกรไทยที่ร่วมบุกเบิก จนทำให้ผลิตภัณฑ์ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคว่าเป็น แอร์พันธุ์อึด เพราะผลิตจากวัสดุที่ทนทาน เทคโนโลยีทันสมัย ประหยัดพลังงาน และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
ดร. ณรัณ กล่าวว่า นวัตกรรมที่คิดค้นมาเพื่อตอบโจทย์ในเรื่องของการประหยัดพลังงานและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ได้แก่ “เครื่องทำความเย็นระบบอินเวอร์เตอร์แบบ Modular รุ่น MWCU-PHE ”ได้รับการพัฒนาขึ้นสำหรับงานระบบปรับอากาศที่ใช้ในเชิงอุตสาหกรรม ,อาคารสำนักงานขนาดใหญ่ ,โรงแรม ,ระบบหล่อเย็น ,โรงผลิตอาหาร และโรงผลิตยา ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือก สำหรับสินค้าเครื่องปรับอากาศในกลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งใช้พื้นที่ในการติดตั้งน้อย ซ่อมบำรุงง่าย โดยเครื่องดังกล่าว จะทำหน้าที่ผลิตน้ำเย็น เพื่อนำไปใช้ในระบบปรับอากาศหรือระบายความร้อน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วยระบบอินเวอร์เตอร์ สามารถปรับการทำความเย็นตามความต้องการในขณะนั้น ทำให้ประหยัดพลังงานยิ่งขึ้น โดยมีค่าสัมประสิทธิ์สมรรถนะการทำความเย็น (COP) สูงถึง 6.64
โดยในอดีตสารทำความเย็นที่ใช้ ในเครื่องปรับอากาศ เรียกกันว่า R-22 มีค่าศักยภาพการทำลายชั้นบรรยากาศโอโซน ODP=0.05 ค่าศักยภาพทำให้โลกร้อน GWP=1,810 แต่ปัจจุบันพบว่าสารทำความเย็น R-32 มีค่าศักยภาพการทำลายชั้นบรรยากาศโอโซน ODP=0 ค่าศักยภาพทำให้โลกร้อน GWP=680 ซึ่งมีผลต่อสภาพภูมิอากาศน้อยลง 3 เท่า สำหรับในประเทศไทยนั้น กรมโรงงานอุตสาหกรรมซึ่งเป็นหน่วยงานในการดำเนินการภายใต้พิธีสารมอนทรีออล ได้ประกาศให้โรงงานผลิตเครื่องปรับอากาศขนาดต่ำกว่า 50,000 BTU ห้ามใช้สารที่ทำลายชั้นบรรยากาศโอโซน (R22)
ดังนั้น“เครื่องปรับอากาศแบบตั้งได้แขวนได้” จึงเลือกใช้สารทำความเย็น R32 รุ่น UFV/AFV เป็นเครื่องปรับอากาศที่ใช้สารทำความเย็นชนิดใหม่ มีค่าทำลายชั้นโอโซนเป็น 0 ช่วยลดผลกระทบจากก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากสารทำความเย็น จากเครื่องปรับอากาศที่ใช้ในบ้านเรือนได้มากถึง 1 ใน 3 นอกจากนี้ยังมีประสิทธิภาพในการทำความเย็นได้สูงกว่าสารทำความเย็นชนิดเดิม ทำให้ช่วยประหยัดพลังงานได้เพิ่มขึ้น โดยยูนิแอร์ถือเป็นเจ้าแรกที่นำสารทำความเย็น R32 มาใช้ และตั้งเป้าจะใช้ R22 100% ภายในปี 2560 ดร. ณรัณ กล่าวเพิ่มเติม
“เครื่องปรับอากาศ มักถูกมองว่าเป็นผู้ร้าย ในการทำลายสิ่งแวดล้อม จึงเป็นสาเหตุที่เราต้องคิดค้นพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้กลุ่มผู้บริโภคได้รับความคุ้มค่าและเป็นผลดีต่อสภาพแวดล้อม”
ปัจจุบัน ยูนิแอร์ ดำเนินธุรกิจเข้าสู่ปีที่ 45 นับเป็นแบรนด์เครื่องปรับอากาศไทยที่เก่าแก่ที่สุด กำลังการผลิต 190,000 ยูนิตต่อปี มีลูกค้าทั้งตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ ได้เริ่มส่งออกตั้งแต่ปี 2518 ปัจจุบันส่งออกไปแล้วกว่า 70 ประเทศทั่วโลก เช่น บังคลาเทศ ปากีสถาน ศรีลังกา อีหร่าน ดูไบ อินโดนีเซีย กัมพูชา ลาว ออสเตรเลีย อเมริกากลาง คิวบา แม็กซิโก เป็นต้น มีสัดส่วนตลาดในประเทศไทย 70% ต่างประเทศ 30% โดยในอีก 4-5 ปีข้างหน้า ยังได้ตั้งเป้าส่วนการตลาดในประเทศและต่างประเทศอยู่ในสัดส่วน 50% : 50 % ทั้งยังตั้งเป้าการเติบโตในปี 2561 ไว้ที่ 15%