คาดการณ์ภาพรวมตลาดพลังงานหมุนเวียน ปี 2021-2022


แม้จะเกิดการระบาดใหญ่ของโคโรน่าไวรัสในปี 2020 ซึ่งส่งผลต่อภาพรวมของเศรษฐกิจโลก รวมถึงความต้องการใช้พลังงานเชื้อเพลิงต่างๆ ที่ลดลง แต่พลังงานหมุนเวียนกลับเป็นแหล่งพลังงานเดียวที่มีอัตราเติบโตขยายตัวเพิ่มขึ้น ทั้งนี้มีการคาดการณ์ในอนาคตว่า การใช้พลังงานหมุนเวียนจะขยายตัวเร็วขึ้นหลังเศรษฐกิจโลกพื้นตัวจากวิกฤตหรือไม่? โดยจากรายงานการสำรวจตลาดและนโยบายภาครัฐของประเทศต่างๆ ของ IEA มีการคาดการณ์ว่าพลังงานทดแทนจะเข้ามามีผลต่อกำลังการผลิตไฟฟ้าหมุนเวียนทั่วโลก สำหรับในปี 2021 และ 2022

ไฮไลท์ ภาพรวมตลาดพลังงานหมุนเวียน

  • ในปี 2020 การเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนต่อปีเพิ่มขึ้น 45% หรือคิดเป็นเกือบ 280 GW ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดเมื่อเทียบเป็นรายปีนับตั้งแต่ปี 1999
  • การเพิ่มกำลังการผลิตที่สูงเป็นพิเศษได้กลายเป็น “เรื่องปกติใหม่” ในปี 2021 และ 2022 โดยพลังงานหมุนเวียนคิดเป็น 90% ของการขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าใหม่ทั่วโลก
  • การพัฒนาเซลล์แสงอาทิตย์จะยังคงทำลายสถิติต่อไปโดยมีการเพิ่มขึ้นปีละ 162 GW ภายในปี 2022 ซึ่งสูงกว่าระดับก่อนการระบาดของปี 2019 เกือบ 50%
  • พลังงานลมทั่วโลกเพิ่มขึ้นมากกว่า 90% ในปี 2020 ถึง 114 GW แม้ว่าการเติบโตของตลาดประจำปีจะชะลอตัวลงในปี 2021 และ 2022 แต่ก็ยังสูงกว่าค่าเฉลี่ยของปี 2017-2019 ถึง 50%
  • อัตราการเติบโตต่อปีของประเทศจีน ตลาดพลังงานหมุนเวียนจะชะลอตัวลงตามการขยายตัว ซึ่งเป็นผลมาจากนักพัฒนาที่เร่งดำเนินโครงการให้เสร็จสิ้นก่อนที่จะมีการจ่ายเงินอุดหนุน อย่างไรก็ตามการพัฒนาโครงการฯ และการลงทุนภายนอกประเทศจีน จะสามารถชดเชยการชะลอตัวของจีนและรักษาอัตราการขยายตัวของพลังงานหมุนเวียน
  • การเติบโตของกำลังการผลิตของยุโรปเร่งตัวขึ้น เนื่องจากการสนับสนุนด้านนโยบายเพิ่มเติมและตลาด PPA ขององค์กร ที่เติบโตอย่างต่อเนื่องจากต้นทุน PV ที่มีราคาลดลงอย่างต่อเนื่อง
  • การเติบโตในสหรัฐอเมริกามีแนวโน้มแง่ดีมากขึ้น เนื่องจากการขยายเครดิตภาษีของรัฐบาลกลาง เป้าหมายการลดการปล่อยมลพิษใหม่ของสหรัฐฯ รวมถึงการเรียกเก็บเงินโครงสร้างพื้นฐาน จะช่วยเพิ่มการขยายตัวของพลังงานหมุนเวียนหลังปี 2022 (รวมถึงช่วงเวลาหลังจากการอัปเดตการคาดการณ์นี้)
  • แม้ว่าการเพิ่มกำลังการผลิตของอินเดียในปี 2020 จะลดลงเกือบ 50% จากปี 2019 แต่คาดว่าอินเดีย จะสร้างสถิติใหม่สำหรับการขยายตัวของพลังงานหมุนเวียนในปี 2021 และ 2022 เนื่องจากโครงการล่าช้าจากการประมูลแข่งขันครั้งก่อนได้รับการอนุมัติ อย่างไรก็ตามกระแส (เมษายน 2021) ที่เพิ่มสูงขึ้นของโควิด ‑ 19 อาจมีผลต่อการคาดการณ์ระยะสั้นสำหรับปีนี้
  • การผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพสำหรับการขนส่ง สำหรับในปี 2021 คาดว่าจะดีดตัวกลับสู่ปริมาณเดียวกันของปี 2019 หลังจากที่ลดลง 8% ในปี 2020 และคาดว่าการผลิตจะขยายตัวอีก 7% ในปี 2022
  • แรงผลักดันหลักจากมาตรฐานการสนับสนุนการใช้เชื้อเพลิงสะอาด และการสนับสนุนนโยบายในสหรัฐอเมริกา จะทำให้กำลังการผลิต Hydrotreated Vegetal Oil (HVO) ทั่วโลก เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าในอีกสองปีข้างหน้า ซึ่งจะช่วยขยายขีดความสามารถในการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพจากขยะและวัตถุดิบตกค้างได้อย่างมีนัยสำคัญ

การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน

ย้อนกลับไปดูปี 2020

เส้นตายของนโยบายภายในของแต่ละประเทศ ผลักดันให้มีการเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนทั่วโลก เป็นเกือบ 280 GW ในปี 2020 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดเมื่อเทียบเป็นรายปีในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา

สำหรับในปี 2020 แม้จะมีความท้าทายด้านซัพพลายเชน ซึ่งเกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และความล่าช้าในการก่อสร้าง แต่การเพิ่มขึ้นของกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนในปี 2020 กลับขยายตัวมากกว่า 45% จากปี 2019 และทำลายสถิติอีกครั้ง การเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานลมทั่วโลกมีตัวเลขการเติบโตที่โดดเด่น โดยเพิ่มขึ้นสูงถึง 90% ทำให้เกิดการขยายตัว นอกจากนี้ การเติบโตเป็นประวัติการณ์ของพลังงานหมุนเวียนในปี 2020 คือ การขยายตัวของการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ที่เพิ่มขึ้นถึง 23% หรือเกือบ 135GW ในปี 2020

นอกจากนี้ จากเส้นตายของนโยบายในจีน สหรัฐอเมริกา และเวียดนาม ยังได้กระตุ้นให้เกิดการเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน โดยในปี 2020 จีนเพียงประเทศเดียวมีปริมาณการผลิตพลังงานหมุนเวียนที่เพิ่มขึ้นมากถึง 80% เมื่อเทียบกับการเติบโตตั้งแต่ปี 2019 ถึง 2020 ซึ่งปริมาณเพิ่มขึ้นจากโครงการพัฒนาพลังงานลมบนบกและพลังงานแสงอาทิตย์ที่ทำสัญญาภายใต้โครงการ FIT ในอดีตของจีน ซึ่งผู้ได้รับการประมูลแข่งขันระดับกลางและระดับจังหวัดก่อนหน้านี้ ได้เชื่อมต่อกับกริดภายในสิ้นปี 2020 ส่วนในสหรัฐอเมริกาเติบโตจากการที่ผู้พัฒนาพลังงานลมรีบดำเนินการโครงการให้แล้วเสร็จทันกำหนดการ ก่อนที่เครดิตภาษีการผลิตจะหมดอายุ (PTC) แม้มีการขยายเวลาไปถึงเดือนธันวาคม 2020 ขณะที่เวียดนามเติบโตขึ้นจากการยุติโครงการ FIT สำหรับโครงการ Solar PV ซึ่งทำให้ผู้พัฒนาต้องเร่งรีบรับดำเนินการติดตั้งเชิงพาณิชย์และที่อยู่อาศัย อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน

การเร่งดำเนินโครงการก่อนกำหนดเส้นตายของนโยบายในประเทศเหล่านี้ ซึ่งเกิดขึ้นในไตรมาสสุดท้ายของปี 2020 โดยเฉพาะในเดือนธันวาคม ซึ่งนักพัฒนาได้เชื่อมต่อกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนใหม่เข้าระบบเกือบ 150GW ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากกว่าสองเท่าของปริมาณกำลังการผลิตของไตรมาสสุดท้ายของปี 2019 และมีปริมาณที่มากกว่า 3 ไตรมาสของปี 2020 รวมกัน โดยจากข้อมูลของ IEA ได้ระบุว่าในปี 2020 นั้น มีการชะลอตัวของการเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานทดแทนเฉพาะในไตรมาสแรกของปีเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นในประเทศจีน ในขณะที่ประเทศอื่นๆ ยังมีการเพิ่มกำลังการผลิต แม้จะมีข้อจำกัด ด้านการเคลื่อนย้ายและความล่าช้าจากห่วงโซ่อุปทาน นอกจากนี้ตัวเลขการพัฒนาใหม่ที่เพิ่มขึ้นในเดือนธันวาคม ในจีนและสหรัฐอเมริกา ยังบ่งชี้ว่าห่วงโซ่อุปทานการพัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม ยังมีการพัฒนาโครงการและเติบโตเป็นประวัติการณ์

การสนับสนุนการใช้พลังงานหมุนเวียนในปี 2020 กลายเป็น “New normal” สำหรับการเพิ่มกำลังการผลิตในปี 2021 และ 2022

การเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนที่เติบโตขึ้น จะสูงถึง 270 GW ในการดำเนินการปี 2021 และ 280 GW ในปี 2022 ซึ่งการขยายตัวดังกล่าวนี้ จะมากกว่า 50% ของการเพิ่มกำลังการผลิตประจำปีของปี 2017-2019 และคาดว่าจะทำให้พลังงานหมุนเวียนคิดเป็น 90% ของกำลังการผลิตไฟฟ้าทั่วโลก ที่จะเพิ่มขึ้นทั้งในปี 2021 และ 2022

เชื้อเพลิงชีวภาพสำหรับการขนส่ง

ความต้องการเชื้อเพลิงชีวภาพโดยรวมสำหรับการขนส่งลดลง 8% หรือกว่า 150 พันล้านลิตร นับจากปี 2019 ถึง 2020 ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 144 พันล้านลิตร โดยในปี 2020 ผลผลิตที่ลดลงจากการผลิตเอทานอลในบราซิลและสหรัฐ รวมถึงการผลิตไบโอดีเซลในยุโรป คิดเป็น 90% ของการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพที่ลดลงตั้งแต่ปี 2019 ถึง 2020

การผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพทั่วโลก คาดว่าจะฟื้นตัวกลับไปสู่ระดับเดียวกับปี 2019 ได้ในปี 2021 แต่การพื้นตัวนี้จะยังไม่สม่ำเสมอ การผลิตไบโอดีเซลและน้ำมันพืชที่ผ่านการบำบัดด้วยไฮโดรเจน (HVO) เพิ่มขึ้นทั่วโลก และเอทานอลขยายตัวในอินเดีย กำลังการผลิต HVO คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 50% ในปี 2021 เมื่อเที่ยบกับปี 2020 หากโครงการใหม่ๆ ถูกสร้างขึ้นตามกำหนดเวลา แต่อย่างไรก็ตาม ผลกระทบอย่างต่อเนื่องจากวิกฤติโควิด-19 ต่อความต้องการ รวมถึงความไม่แน่นอนของราคาเอทานอลที่สัมพันธ์กับสารให้ความหวานในบราซิล จะยังคงรักษาระดับการผลิตเอทานอลทั้งในสหรัฐฯและบราซิลให้ต่ำกว่าระดับในปี 2019

การระบาดใหญ่ของโควิด-19 ทำให้การดำเนินนโยบายเชื้อเพลิงชีวภาพในอินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย และบราซิลล่าช้าออกไป แม้เคยคาดการณ์ไว้ว่าจะมีการเติบโตของการผลิต อย่างไรก็ตาม การผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 7% ในปี 2022 เมื่อเทียบกับปี 2021

การดำเนินนโยบายในอินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย และบราซิลช้าลง เริ่มตั้งแต่เริ่มเกิดวิกฤตโควิด-19 ในบางกรณี ความล่าช้าของนโยบายเหล่านี้เกี่ยวข้องโดยตรงกับการหยุดชะงักของความต้องการเชื้อเพลิงจากการระบาดใหญ่ การจัดลำดับความสำคัญของรัฐบาลเกี่ยวกับความกังวลของโควิด-19 และรวมถึงต้นทุนเชื้อเพลิงฟอสซิลที่ลดลงเมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงชีวภาพในช่วงต้นของการระบาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าราคาน้ำมันจะฟื้นตัวแล้ว แต่ต้นทุนของวัตถุดิบจากถั่วเหลืองและน้ำมันปาล์มยังคงทำให้ราคาไบโอดีเซลทรงตัว และมีราคาที่สูงเมื่อเทียบกับน้ำมันดีเซลฟอสซิล

การดำเนินการนโยบายเชื้อเพลิงชีวภาพล่าช้าในบางประเทศ

อินโดนีเซีย – รัฐบาลอินโดนีเซียได้ชะลอการดำเนินการตามคำสั่งของไบโอดีเซล 40% จากปี 2564 จนถึงอย่างน้อยปี 2565 เนื่องจากการหยุดชะงักของการทดสอบและการขยายกำลังการผลิตที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 รวมถึงต้นทุนน้ำมันปาล์มที่สูงสำหรับการผลิตไบโอดีเซล

มาเลเซีย – มาเลเซียเลื่อนการออกคำสั่งผสมไบโอดีเซล 20% ในบางภูมิภาคออกไปอย่างน้อย 6 เดือน รัฐบาลคาดว่าจะขยายการผลิตไบโอดีเซล 20% ไปยังรัฐซาบาห์ในเดือนมิถุนายน และไปยังคาบสมุทรมาเลเซียในเดือนธันวาคม

ประเทศไทย – ประเทศไทยได้เลื่อนการบังคับใช้คำสั่งผสมเอทานอล 20% อย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากความกังวลด้านต้นทุน ในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ราคาเอทานอลสูงกว่าราคาน้ำมันเบนซิน 80%

บราซิล – ในเดือนกันยายน 2020 สำนักงานปิโตรเลียมแห่งชาติของบราซิลได้ปรับลดเป้าหมายการลดการปล่อย GHG ลง 50% เนื่องจากความไม่แน่นอนของตลาดเชื้อเพลิงอาจทำให้ซัพพลายเออร์เชื้อเพลิงบรรลุเป้าหมายได้ยาก ในเดือนเมษายน 2021 บราซิลได้ลดภาระผูกพันไบโอดีเซลลงชั่วคราวจาก 13% เป็น 10% เพื่อตอบสนองต่อราคาไบโอดีเซลที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2020 เนื่องจากต้นทุนถั่วเหลืองที่ใช้ทำไบโอดีเซลสูงขึ้น

กำลังการผลิต HVO คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าในอีกสองปีข้างหน้า

นโยบายของสหรัฐอเมริกาอยู่เบื้องหลัง 85% ของการเพิ่มกำลังการผลิต HVO ทั่วโลก เนื่องจากมาตรฐานเชื้อเพลิงหมุนเวียน มาตรฐานเชื้อเพลิงคาร์บอนต่ำของแคลิฟอร์เนีย และเครดิตเครื่องปั่นไบโอดีเซลทำให้โครงการ HVO มีความน่าสนใจทางเศรษฐกิจ นอกสหรัฐอเมริกา โครงการใหม่จะขยายกำลังการผลิต เพิ่มขึ้น 12% ในปี 2022 เมื่อเทียบกับปี 2020 ในยุโรปและเพิ่มขึ้น 32% ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และกำลังการผลิต HVO สูงสุดจะเพิ่มขึ้นคิดเป็น 11% ของการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพทั่วโลกที่คาดการณ์ไว้ในปี 2022 ซึ่งมากกว่าสองเท่าของส่วนแบ่ง HVO ในปี 2019

ข้อมูลที่คุณอาจสนใจ


Source: www.iea.org/reports/renewable-energy-market-update-2021


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เอง โดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save