รมว.พลังงาน เผยมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เห็นชอบตรึงราคาขายส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) หน้าโรงกลั่นน้ำมัน ตามมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ซึ่งประชุม เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ที่ผ่านมา เพื่อขยายเวลามาตรการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในช่วงการแพร่ระบาดของ Covid-19 โดยเลื่อนเวลาปรับราคา LPG ไปถึงเดือนกันยายน 2563
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน เปิดเผย ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เห็นชอบคงราคาขายส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) หน้าโรงกลั่นน้ำมัน ซึ่งไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการซื้อขายก๊าซฯ อยู่ที่ 14.3758 บาท/กิโลกรัม (กก.) ซึ่งจะทำให้ราคาขายปลีก LPG อยู่ที่ระดับ 18.87 บาท/กก. หรือราคาขายปลีกบรรจุถัง 15 กก.อยู่ที่ 318 บาท ตั้งแต่วันที่ 24 มิถุนายน – 30 กันยายน 63
ทั้งนี้ การคงราคาขายส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ดังกล่าว เพื่อเป็นการช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยและการดำรงชีพของประชาชน ประกอบกับราคา LPG ในตลาดโลก (LPG Cargo) ยังไม่สูงมากนัก แม้ว่าปัจจุบันจะมีความผันผวน และขึ้นลงตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก โดยราคาได้ปรับลงจาก 255 เหรียญสหรัฐ/ตัน ในเดือน มีนาคม 2563 เหลือ 206 เหรียญสหรัฐ/ตันในเดือน เมษายน 2563 และเพิ่มขึ้นเป็น 269 เหรียญสหรัฐ/ตัน ในเดือน พฤษภาคม 2563 ขณะที่ในช่วงต้นเดือนมิถุนายนราคาเพิ่มเป็น 315 เหรียญสหรัฐ/ตัน ก่อนจะขยับเป็น 340 เหรียญสหรัฐ/ตันในปัจจุบัน ซึ่งคาดว่าราคา LPG จะทรงตัวก่อนจะขยับเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปีนี้ เนื่องจากความต้องการใช้จะสูงขึ้น ทำให้คาดว่าราคาเฉลี่ยปีนี้จะไม่เกิน 400 เหรียญสหรัฐ/ตัน
ขณะที่ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 21 มิถุนายน 2563 มีจำนวนสุทธิ 34,199 ล้านบาท แบ่งเป็น บัญชีน้ำมัน 40,617 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 6,418 ล้านบาท โดยประมาณการสภาพคล่องของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ในส่วนบัญชี LPG จะมีรายจ่าย 7.87 ล้านบาท/วัน หรือ 236 ล้านบาท/เดือน
Source: กระทรวงพลังงาน