กระทรวงพลังงานจัดประชุมเวิร์กช็อปเปิดโอกาส คนพลังงานร่วมใจ สู่ทิศทางไทยในอนาคต ระดมแนวคิดละมุมมองกำหนดทิศทางนโยบาย และจัดทำแผนพัฒนาด้านพลังงานของประเทศแบบบูรณาการเตรียมพร้อมให้เข้ากับยุค New Normal และยุคของ Smart & Green Energy
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า สืบเนื่องจากมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2563 มีความเห็นชอบแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ.2561 – 2580 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 พร้อมด้วยแผนที่เกี่ยวข้อง และให้นำแผนทั้งหมดที่เสนอไปรวมให้เป็นแผนเดียวกันอย่างมีเอกภาพและนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาในปี 2564 ประกอบกับการวางแผนพลังงานโดยเฉพาะแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าที่ผ่านมาใช้การประมารการเศรษฐกิจระยะยาวเป็นสมมติฐาน ซึ่งมีความคลาดเคลื่อนอันมาจากผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรค COVID-19 จำเป็นต้องมีการทบทวนให้สอดคล้องกับสถานะความเป็นจริง และแผนในระยะยาว 20 ปี นอกจากนี้ ปัจจุบันมีแผนพลังงานของไทยต้องมีการวางแผนเตรียมการรองรับการเปลี่ยนแปลงยุค Digital Disruption ทั้งด้านสภาวะโลกร้อนและพลังงานสะอาดที่เกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้
เพราะฉะนั้น การจัดการระดมสมองในครั้งนี้เพื่อเป็นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี และสถานการณ์ Digital Disruption ให้ทันท่วงที กระทรวงพลังงานจึงได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ คนพลังงานรุ่นใหม่ ร่วมใจสู่ทิศทางในอนาคต เป็นการเริ่มต้นบันหนึ่งเดินหน้าจัดทำแผนพัฒนาด้านพลังงานของประเทศแบบบูรณาการในวันนี้ โดยมีเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กลุ่มอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานจากบริษัท แมคคินซี่ แอนด์ คอมพานี ประเทศไทย มาร่วมแบ่งปันข้อมูลสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบัน และการคาดการณ์ฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ทิศทางพัฒนาและความท้าทายด้านพลังงานโลกและของประเทศไทยในอนาคต เพื่อสร้างความเข้าใจและกำหนดกรอบภาพอนาคตของพลังงาน นอกจากนี้ การวางแผนและการกำหนดเป้าหมายในแต่ละช่วงเวลา คือ เป้าหมาย 3 ปี 5 ปี 10 ปี และ 20 ปี จำเป็นต้องอาศัยบุคลากรคนรุ่นใหม่ซึ่งมีทักษะแห่งอนาคต เข้าใจในเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัย แนวทางการดำเนินธุรกิจรองรับ Digital Disruption อย่างทันท่วงที อีกทั้งบุคลากรเหล่านี้จะก้าวขึ้นสู่ผู้บริหารเป็นผู้นำในเรื่องพลังงานในอนาคตอีกด้วย
“การจัดทำแผนพัฒนาด้านพลังงานของประเทศแบบบูรณาการครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นการจัดทำแผนบูรณาการครบวงจรทั้งด้านก๊าซธรรมชาติ ไฟฟ้า น้ำมัน พลังงานทดแทน และการอนุรักษ์พลังงานในลักษณะ Bottom Up เสนอจากผู้ปฏิบัติงานมาสู่ระดับนโยบาย ซึ่งจะได้นำผลจากการระดมความเห็นครั้งนี้ มาร่วมกันกำหนดนโยบายและจัดทำแผนแล้วนำไปสู่การปฏิบัติให้เกิดผลที่เป็นรูปธรรมต่อไป”
ดังนั้น การประชุมระดมสมองครั้งนี้จะเป็นการให้คนรุ่นใหม่เหล่านี้ ทั้งส่วนราชการในสังกัดกระทรวงพลังงานทั้ง 4 แห่ง รวมถึงการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และกลุ่ม บริษัท ปตท. จำกัด มหาชน มาร่วมแสดงความคิดเห็นและเสนอแนะกรอบแนวทางการเตรียมการรองรับการเปลี่ยนแลปงทั้งด้านเศรษฐกิจในยุค New Normal และด้านพลังงานในยุค Digital Disruption ได้อย่างมีศักยภาพ