นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ ดร.ศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานร่วมในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) มาตรการปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศ โดยการใช้น้ำมันปาล์มดิบผลิตกระแสไฟฟ้า ระหว่าง นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน และนายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) โดยมี นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ ห้องบุรฉัตรไชยากร กระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2561
โดยที่รัฐบาลได้ตระหนักถึงความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันจากปัญหาราคาผลปาล์มน้ำมันตกต่ำ จึงมีมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2561 เห็นชอบมาตรการปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศโดยการใช้น้ำมันปาล์มดิบผลิตกระแสไฟฟ้า ตามมติคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ โดยให้กระทรวงพลังงาน โดย กฟผ. รับซื้อน้ำมันปาล์มดิบส่วนเกินจำนวน 160,000 ตัน เพื่อนำไปใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าบางปะกง หน่วยที่ 3 จ.ฉะเชิงเทรา และให้กระทรวงพาณิชย์สนับสนุนการจัดหาน้ำมันปาล์มดิบ ให้แก่ กฟผ.
สำหรับบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ กฟผ. เป็นผู้รับซื้อน้ำมันปาล์มดิบ จำนวน 160,000 ตัน ในราคากิโลกรัมละ 18 บาท ส่งที่ท่าเทียบเรือโรงไฟฟ้าบางปะกง ด้วยวิธีจัดซื้อจัดจ้างตามข้อบังคับ ระเบียบ ข้อกำหนด ของ กฟผ. เพื่อนำไปเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตกระแสไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าบางปะกง
ด้านกรมการค้าภายใน เป็นหน่วยงานสนับสนุนการจัดหาน้ำมันปาล์มดิบให้แก่ กฟผ. ตั้งแต่ขั้นตอนการกำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีดำเนินมาตรการ รับสมัครผู้ประสงค์เสนอขายน้ำมันปาล์มดิบให้แก่ กฟผ. คัดเลือกและจัดสรรปริมาณขาย เพื่อให้ กฟผ. ทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง รวมทั้งมอบสำนักงานพาณิชย์จังหวัดและประสานหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องสนับสนุนความช่วยเหลือในระดับพื้นที่ ทั้งนี้ เพื่อให้ราคาผลปาล์มน้ำมันที่เกษตรกรได้รับอยู่ในระดับสูงกว่า 3 บาทต่อกิโลกรัม
ทั้งนี้ ได้มอบนโยบายให้ กรมการค้าภายใน และ กฟผ. ติดตาม ตรวจสอบ กำกับดูแลการดำเนินมาตรการปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศ ให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด รวมทั้งให้ปรับกระบวนการจัดหา ราคา สัญญาซื้อขาย ตลอดจนรายละเอียดและหลักเกณฑ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยให้คำนึงถึงประโยชน์ของเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันเป็นสำคัญ