รมว.พลังงานเปิดเผยภายหลังประชุมทีมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพลังงานว่า เป็นการประชุมหารือถึงนโยบายเร่งด่วนที่จะดำเนินการในช่วง 3 เดือนนี้ เน้นลดภาระประชาชน ด้วยการขยายระยะเวลามาตรการอุดหนุนราคาก๊าซแอลพีจี และการให้ส่วนลดราคาขายปลีกกก๊าซเอ็นจีวีสำหรับรถโดยสารสาธารณะออกไปอีก 2 เดือน จากเดิมที่จะสิ้นสุดในเดือน ก.ค. นี้
22 ก.ค. 62 – นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังประชุมทีมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงพลังงานว่า เป็นการประชุมหารือถึงนโยบายเร่งด่วนที่จะดำเนินการในช่วง 3 เดือนนี้ โดยมุ่งเน้นมาตรการให้ความช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นลำดับแรก ในเบื้องต้นได้ขอให้ ปตท. ขยายระยะเวลามาตรการอุดหนุนราคาก๊าซแอลพีจีสำหรับหาบเร่ แผงลอย และการให้ส่วนลดราคาขายปลีกกก๊าซเอ็นจีวีสำหรับรถโดยสารสาธารณะออกไปอีก 2 เดือน จากเดิมที่จะสิ้นสุดในเดือน ก.ค. เพื่อให้ในระหว่าง 2 เดือน คือไปจนถึงเดือนกันยายนนี้ เพื่อให้สามารถนำนโยบายการช่วยเหลือประชาชนของกระทรวงพลังงานไปเชื่อมโยงกับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของกระทรวงการคลัง
ส่วนเรื่องที่สอง จะเป็นการดำเนินมาตรการช่วยเหลือประชาชนเรื่องภัยแล้ง ซึ่งได้มอบหมายให้พลังงานจังหวัดไปสำรวจพื้นที่ที่รับผิดชอบว่า ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างไรบ้าง เพื่อให้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือในเรื่องระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์บ่อบาดาลเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ซึ่งกระทรวงพลังงานได้มีการดำเนินการไว้อยู่แล้ว
และเรื่องที่สาม แนวทางแก้ปัญหาเรื่องราคาปาล์มน้ำมันเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร กระทรวงพลังงานได้มีการเสนอแผนระยะสั้น และระยะกลางให้กับคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติถึงแนวทางที่เหมาะสม โดยแผนระยะสั้นได้มอบหมายให้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยดำเนินการช่วยเหลือตามแนวทางที่เคยดำเนินการไว้ ส่วนแผนระยะกลาง จะมีการขับเคลื่อนการใช้ B10 และ B20 ให้ชัดเจน ซึ่งได้มอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงานจัดทำรายละเอียดให้ชัดเจนและเหมาะสม
ส่วนกรณีการรื้อถอนแท่นปิโตรเลียมของบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต ที่ยังไม่ได้ข้อยุติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับฟังรายละเอียดและมอบแนวทางการดำเนินงานให้กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติไปจัดทำรายละเอียด เพื่อนำรายละเอียดทั้งหมดมาพิจารณาเพื่อนำไปสู่การเจรจาที่ได้ข้อยุติที่เกิดประโยชน์กับทุกฝ่าย
Source: ภาพ-ข่าว กระทรวงพลังงาน