กบง. มีมติปรับสูตรดีเซล ลดใช้ B20-B10 เหลือแค่ B7 ชนิดเดียว ส่งผลราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลลดลงเหลือไม่เกิน 28 บาท/ลิตร เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ธันวาคมนี้ ถึงเดือนมีนาคม 2565 เป็นเวลา 4 เดือน
24 พฤศจิกายน 2564 – การประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกที่มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ได้ส่งผลกระทบต่อราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศที่มีการปรับขึ้นราคา สาเหตุมาจากความต้องการใช้พลังงานทั่วโลกเพิ่มขึ้นหลังเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวจากสถานการณ์ COVID- 19 รวมถึงค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลง และเพื่อไม่ให้กระทบต่อประชาชนผู้บริโภคและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศ ซึ่งแม้ว่ากระทรวงพลังงานได้ดำเนินการแล้วแต่การปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องของราคาน้ำมันในตลาดโลกยังคงส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงดีเซลในประเทศบางประเภทสูงขึ้นจนส่งผลกระทบกับการดำรงชีพของประชาชน
กบง.จึงมีมติเห็นชอบมาตรการบรรเทาผลกระทบเพิ่มเติมของน้ำมันดีเซลหมุนเร็วที่ปรับตัวสูงขึ้นของกระทรวงพลังงาน โดยมีแนวทางดำเนินการในเดือนธันวาคม 2564 – เดือนมีนาคม 2565 ดังนี้
- ปรับลดสัดส่วนผสมไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซลหมุนเร็วจากเดิมมีการผสมอยู่ 3 สัดส่วน คือ ร้อยละ 7 (ฺB7) ร้อยละ 10 (B10) และร้อยละ 20 (B20) ให้มีสัดส่วนผสมเดียว คือ ร้อยละ 7 (B7)
- ขอความร่วมมือให้ผู้ค้าน้ำมันคงค่าการตลาดกลุ่มน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ไม่เกิน 1.40 บาทต่อลิตร
- กรมธุรกิจพลังงานออกประกาศ เรื่อง กำหนดลักษณะและคุณภาพของน้ำมันดีเซล พ.ศ. …. ใหม่ ที่มีส่วนผสมของไบโอดีเซลร้อยละ 7
- ให้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ชดเชยราคาน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ให้สอดคล้องกับมาตรการบรรเทาผลกระทบฯ ซึ่งปัจจุบันราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว อยู่ที่ระดับราคา 28.69 บาทต่อลิตร โดยยังคอยดูแลราคาขายปลีกกลุ่มน้ำมันดีเซลหมุนเร็วให้ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมอบหมายให้กระทรวงพลังงานประสานฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) นำเสนอมาตรการส่งเสริมการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบแก่ กนป. เพื่อพิจารณา ซึ่งปัจจุบันราคาน้ำมันปาล์มดิบในตลาดโลกยังคงเป็นราคาที่สูง การส่งเสริมการส่งออกเป็นมาตรการหนึ่งที่จะรักษาราคาผลปาล์มได้ใกล้เคียงระดับราคาเฉลี่ยที่ผ่านมา ในระหว่างนี้จะมีการประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและกำหนดมาตรการเพื่อบรรเทาผลกระทบค่าครองชีพประชาชนในระยะต่อไป