ความตายของเครื่องยนต์ดีเซลกำลังจะเกิดขึ้น เมื่อโรงงานผลิตเครื่องยนต์ดีเซลที่ใหญ่ที่สุดในโลก Tremery ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของประเทศฝรั่งเศส เตรียมยกเครื่องโรงงานครั้งใหญ่ โดยลดกำลังการผลิตเครื่องยนต์ดีเซลลงถึง 50% เพื่อหันมาผลิตมอเตอร์ไฟฟ้าแทน
จากกำลังการผลิตมอเตอร์ไฟฟ้าไม่ถึง 10% ในปี 2020 การผลิตมอเตอร์ไฟฟ้าใน Tremery จะเพิ่มเป็นสองเท่า ที่ 180,000 ในปี 2564 และตั้งเป้าจะเพิ่มกำลังการผลิตให้ได้ 900,000 ต่อปีหรือมากกว่าครึ่งหนึ่งของกำลังการผลิตก่อนการระบาดสูงสุดของโรงงานภายในปี 2568
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเป็นสัญญาณถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีความต้องการใช้เครื่องยนต์ดีเซลลดลง ตั้งแต่มีเรื่องอื้อฉาวด้านมลพิษตั้งแต่ปี 2558 ในขณะที่กฏระเบียบใหม่ด้านมาตรฐานไอเสียของสหภาพยุโรปที่เข้มงวดขึ้น ส่งผลต่อผู้ผลิตรถยนต์ที่ปล่อยมลพิษ และผลักดันให้ค่ายรถยนต์ต้องหันมาพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสภาพแวดล้อมมากขึ้น
ดังนั้นท่ามกลางการแพร่ของโรคระบาด และระดับความต้องการของผู้บริโภคที่มีต่อรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ ที่ยังคงไม่มีความชัดเจน ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ ไม่ว่าจากค่าย Volkswagen ไปจนถึง Nissan ต่างเลิกโมเดลที่เป็นดีเซลและหันไปพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าแทน
ตัวแทนจากสหภาพของโรงงานแห่งนี้ ยังเผยว่า ในปี 2564 กำลังจะเป็นปีที่สำคัญซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริงครั้งแรกสู่โลกของยานยนต์ไฟฟ้า และที่น่าสนใจคือมอเตอร์ไฟฟ้ามีชิ้นส่วนเพียงแค่ 1 ใน 5 ของเครื่องยนต์ดีเซลเท่านั้น การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจึงอาจส่งผลกระทบต่อคนงานกว่า 3,000 คนของ Tremery และอุตสาหกรรมรถยนต์ในวงกว้าง เพราะความต้องการพนักงานน้อยลงและอาจต้องมีการปลดคนงานออกในอนาคต แต่หากมองในแง่ดี อัตราการจ้างงานที่ลดลงอาจเป็นไปโดยธรรมชาติ โดยปล่อยให้พนักงานเกษียรอายุงาน และไม่มีการจ้างพนักงานใหม่เพิ่ม ซึ่งก็จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายของบริษัทได้เช่นกัน
Source: Rreuters – www.reuters.com/article/us-autos-europe-diesel-idUSKBN29U1HI