กระทรวงพลังงาน โดยกรมธุรกิจพลังงานเตรียมออกประกาศให้น้ำมันไบโอดีเซล B10 เป็นน้ำมันดีเซลเกรดมาตรฐานของประเทศไทย แทนน้ำมันไบโอดีเซล B7 โดยจะทยอยลดการใช้ B7 แต่จะยังคงมี B7 เกรดพรีเมียมจำหน่ายไปอีกระยะหนึ่ง ในอนาคตจะมีน้ำมันไบโอดีเซล B10 และ B20 ซึ่งจะเห็นภาพชัดเจนภายใน 3-5 ปีข้างหน้า ตั้งเป้าหมายให้ไทยจำหน่ายน้ำมันดีเซล B20 เป็นน้ำมันพื้นฐานรายแรกในอาเซียน
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผย สัปดาห์หน้ากรมธุรกิจพลังงานจะออกประกาศเรื่องมาตรฐานน้ำมัน B10 เพื่อให้น้ำมัน B10 เป็นน้ำมันดีเซลเกรดมาตรฐานของประเทศไทย ซึ่งต้องมีจำหน่ายในสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศ เพื่อทยอยลดสัดส่วนการใช้น้ำมันดีเซล B7 ในอนาคต ส่วนน้ำมันดีเซล B7 เกรดพรีเมียมนั้น จะยังมีจำหน่ายอีกระยะหนึ่ง
ในอนาคตจะมีน้ำมัน B10 และ B20 เข้ามาแทน โดยราคาน้ำมันดีเซล B10 จะถูกกว่า B7 ลิตรละ 3 บาท และน้ำมันดีเซล B20 จะถูกกว่า B7 ลิตรละ 7 บาท โดยทั้งหมดนี้จะเห็นภาพที่ชัดเจนภายใน 3-5 ปีข้างหน้า และตั้งเป้าให้ไทยเป็นรายแรกของอาเซียน ที่จำหน่ายน้ำมันดีเซล B20 เป็นน้ำมันพื้นฐาน ทั้งนี้เพื่อลดภาระการใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในการอุดหนุนหรือชดเชยส่วนต่างของราคาน้ำมัน
ปัจจุบันในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลมีสถานีบริการน้ำมันที่จำหน่ายน้ำมันดีเซล B20 ทั้งสิ้น 310 แห่ง โดยกระทรวงพลังงานได้ขยายเวลาลดราคาน้ำมันดีเซล B20 ให้ถูกกว่าดีเซลปกติลิตรละ 5 บาท ต่อไปอีก 2 เดือน โดยจะสิ้นสุดการอุดหนุนในวันที่ 31 กรกฎาคม 2562
ทั้งนี้มาตรการดังกล่าว จะทำให้มีการใช้น้ำมันปาล์มดิบเพื่อผลิตไบโอดีเซล 1.5 ล้านตันต่อปี และคาดว่าปีนี้ทั้งปีจะใช้ปริมาณปาล์มรวม 2 ล้านตันต่อปี จากที่ผ่านมาที่ใช้เพียง 1.2 ล้านตันต่อปีเท่านั้น
นอกจากนี้แล้วกระทรวงพลังงาน ยังมีนโยบายขยายการใช้น้ำมันดีเซล B20 ไปยังกลุ่มรถยนต์ดีเซลขนาดเล็ก นอกเหนือจากรถยนต์กระบะของโตโยต้าและอีซูซุ ซึ่งเป็นค่ายรถยนต์ผู้จัดจำหน่ายรถกระบะกว่า 70% ของประเทศ มีรถกระบะที่สามารถใช้น้ำมันดีเซล B20 รวมกันมากถึง 97 รุ่น และได้มีการประกาศรายชื่อรุ่นรถกระบะที่สามารถใช้งานน้ำมันดีเซล B20 ไปก่อนหน้านี้แล้ว