รมว.พลังงาน มอบหมาย คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) หารือ 3 การไฟฟ้า หาแนวทางลดต้นทุนค่าไฟฟ้า เบื้องต้น กกพ. เห็นชอบแนวทางการปรับอัตราส่วนผลตอบแทนต่อเงินลงทุนเพื่อการดำเนินงาน (ROIC) ในปี 2563 วงเงินราว 2,000 ล้านบาท เตรียมเก็บเข้าบัญชีเงินบริหารค่าไฟฟ้า เพื่อลดต้นทุน ช่วยประคองค่าไฟฟ้าประชาชนต้นปี 2564
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้เปิดเผยถึงกรณีปัญหาสำรองไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นสูงอยู่ในระดับ 37-40% ซึ่งเกิดจากผลกระทบโควิด-19 ที่ทำให้การใช้ไฟฟ้าลดต่ำลงจากปกติสำรองควรอยู่ไม่เกิน 15% ของกำลังการผลิตนั้นเป็นเพียงปัญหาระยะสั้นแต่ระยะยาวไม่ได้น่ากังวลแต่อย่างใดเนื่องจากโรงไฟฟ้าเก่าจะทยอยถูกปลดออกจากระบบและแนวโน้มเศรษฐกิจที่จะค่อยๆ ฟื้นตัวจะทำให้การใช้ในระยะยาวกลับมาสู่ภาวะปกติได้ อย่างไรก็ตาม ได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) ประสานกับ 3 การไฟฟ้าให้หาแนวทางลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อต้นทุนค่าไฟกับประชาชน
“การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอ ทำให้การใช้ไฟฟ้าลดต่ำลงจึงทำให้สำรองไฟปรับเพิ่มขึ้นเป็นเรื่องปกติเชื่อว่าหลายประเทศก็เผชิญปัญหาเดียวกันก็คงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นซึ่งระยะสั้น นี้ก็ต้องแก้ไขไม่ให้สำรองที่สูงส่งผล กระทบค่าไฟ โดยอาจไปดูในเรื่องการสั่งการเดินเครื่องโรงไฟฟ้าที่มีต้นทุนเชื้อเพลิงราคาถูกที่สุดก่อน เป็นต้น” นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว
ด้าน นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สกพ.) และในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า กกพ.ได้หารือกับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ในการลดต้นทุนค่าไฟฟ้าซึ่งเบื้องต้นอาจมีการปรับอัตราส่วนผลตอบแทนต่อเงินลงทุนเพื่อการดำเนินงาน(ROIC) ในปี 2563 ลงมาประมาณ 2,000 ล้านบาท แต่ทั้งนี้จะต้องไปดูรายละเอียดร่วมกันอีกครั้งเนื่องจากการใช้ไฟฟ้าที่ลดต่ำอาจทำให้ 3 การไฟฟ้ามีรายได้ลดลง
“ปัจจุบัน ROIC ของ 3 การไฟฟ้ากำหนดไว้ไม่เกิน 6% การจะปรับลดในอัตราดังกล่าวก็คงจะต้องดูว่าไม่ให้กระทบกับการดำเนินงานของ 3 การไฟฟ้า ดังนั้นตัวเลขที่ชัดเจนก็ต้องไปดูว่าจะลดลงได้เท่าไหร่เพราะต้องคำนึงถึงผลประกอบการด้วย” โฆษก กกพ. กล่าว
อย่างไรก็ตาม อัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (Ft) ในรอบใหม่ (ม.ค.-เม.ย.64) ที่จะประกาศภายในสิ้นปีนี้นั้น ยอมรับว่ามีแนวโน้มที่จะลดลงจากปัจจัยที่ราคาเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติที่อิงราคาน้ำมันย้อนหลัง 6-12 เดือนจะมีทิศทางที่ถูกลง แต่ก็ยอมรับว่าการใช้ไฟฟ้าก็ลดต่ำไปด้วยทำให้ยังไม่สามารถประเมินได้ในขณะนี้ว่าโอกาสปรับลดลงจะมีมากน้อยเพียงใด เพราะยังจะต้องพิจารณาจากอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทอีกด้วย โดยแนวทางการพิจารณาการลดต้นทุนภาพรวมมีโอกาสที่จะเห็นผลสะท้อนไปยังค่า Ft ในงวดใหม่นี้
“โครงสร้างค่าไฟฟ้าปี 2564 นั้น กกพ. อยู่ระหว่างทบทวนหลักเกณฑ์โครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าใหม่ทั้งหมด เพื่อที่จะแยกประเภทผู้ใช้ออกมาให้ชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะแยกอัตราค่า ไฟฟ้าสำหรับรองรับการส่งเสริมยานยนต์ ไฟฟ้า (EV) ออกมาต่างหากเพื่อให้เกิดความชัดเจน” นายคมกฤช กล่าวทิ้งท้าย