มติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เห็นชอบให้คงราคาน้ำมันดีเซลในสัปดาห์นี้ไว้ที่ลิตรละ 32 บาท เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบด้านค่าครองชีพให้ประชาชน จากราคาจริงอยู่ที่ลิตรละ 38 บาท ภายใต้สถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกยังคงอยู่ในระดับสูง
18 พฤษภาคม 2565 – สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) กล่าวภายหลังการประชุม กบน.ว่า กบน.มีมติให้คงราคาดีเซลในสัปดาห์นี้ไว้ที่ลิตรละ 32 บาท เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบด้านค่าครองชีพให้ประชาชน จากราคาจริงอยู่ที่ลิตรละ 38 บาท ภายใต้สถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกยังคงอยู่ในระดับสูง
วิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) กล่าวว่าที่ ราคาดีเซล ณ วันที่ 6 พ.ค.2565 อยู่ที่ 160.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยปัจจุบันกองทุนน้ำมันอุดหนุนอยู่ที่ลิตรละ 11.35 บาท แม้ว่าบัญชีกองทุนน้ำมัน ณ วันที่ 8 พ.ค.2565 ประมาณการฐานะกองทุนติดลบ 66,681 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 33,258 ล้านบาท และบัญชีก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี) ติดลบ 33,423 ล้านบาท แต่กองทุนน้ำมันยังมีสภาพคล่องที่กองทุนมีประมาณ 12,932 ล้านบาท
ทั้งนี้ ถือว่ายังเพียงพอในการดูแลราคาน้ำมันในประเทศ ภายหลังรัฐบาลมีนโยบายให้ปรับราคาน้ำมันดีเซลขึ้นแบบมีการอุดหนุนครึ่งหนึ่งของราคาที่ปรับขึ้น ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 พ.ค.2565 ที่ผ่านมา อีกทั้งประเมินทิศทางราคาน้ำมันตลาดโลกมีแนวโน้มลดลง หลังยุโรปผ่านพ้นฤดูหนาวเป็นปัจจัยหลัก โดยกองทุนน้ำมันต้องติดตามราคาน้ำมันวันต่อวัน ถ้าหากกบน.จะอุดหนุนคนละครึ่งจะยู่ที่กว่า 6 บาท และบวก 32 บาท จะอยู่ที่ลิตรละ 38 บาท ซึ่งกบน.ดูแล้วว่าราคาจะกระทบประชาชนในวงกว้าง จึงยังคงราคาที่ลิตรละ 32 บาทต่อไปอีกสัปดาห์
นอกจากนี้ยังมีการติดตามสถานการณ์การสู้รบระหว่างยูเครน-รัสเซีย ที่จะมีผลต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกอย่างใกล้ชิด เพื่อประกอบการพิจารณาปรับราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศขึ้นและลงเป็นรายสัปดาห์อีกครั้งในวันที่ 16 พ.ค.2565 หากในแต่ละรอบสัปดาห์ราคาน้ำมันตลาดโลกปรับลดลง ก็จะมีการปรับเงินอุดหนุนและปรับเพดานราคาลดลงตามการเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมันต่อไป
“ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนเม.ย. 2565 กับเดือน พ.ค. 2565 จากยอดใช้น้ำมันดีเซลวันละ 73 ล้านลิตร เหลือ 65 ล้านลิตร ถือเป็นสัญญาณที่ว่าประชาชนเริ่มประหยัด ในขณะที่รถขนส่งสินค้าจะเพิ่มปริมาณการขนส่งต่อเที่ยวมากขึ้นเพื่อลดจำนวนการขนส่งแต่คาร์ปาซิตี้เท่าเดิม อีกทั้ง อยากให้ประชาชนเข้าใจว่ากระทรวงพลังงานดูแลอย่างเต็มที่ ถ้าดูตลาดอาเซียน ประเทศเราจะค่อนข้างราคาต่ำกว่า” นายวิศักดิ์ กล่าว
สำหรับความคืบหน้าการกู้เงินจากสถาบันการเงิน 20,000 ล้านบาท เพื่อใช้อุดหนุนราคาน้ำมันในประเทศนั้น ขณะนี้มีธนาคารออมสินและธนาคารกรุงไทย มีความสนใจและยื่นข้อเสนอการปล่อยกู้มายังกองทุนแล้ว จากที่แจ้งไป 10 แห่ง โดยทั้ง 2 แห่งขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานะทางการเงิน สภาพคล่องของเงินเข้าและออก และราคาน้ำมันตลาดโลกเป็นอย่างไร รวมทั้งเงื่อนไขการปล่อยกู้ปัจจุบันมีการพิจารณาเข้มข้นขึ้นมาก
ด้าน วัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวว่า ขณะนี้ กรมธุรกิจพลังงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างพิจารณาแนวทางปรับลดสัดส่วนการผสมไบโอดีเซล (B100) ในน้ำมันดีเซลลงอยู่ที่ B3 จากปัจจุบันอยู่ที่ B5 มั่นใจจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้ เพื่อเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงาน (กบง.) พิจารณาก่อนเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบต่อไป
“ต้นทุนB5 วันนี้ลิตรละราว 36 บาท ถ้าปรับลงเหลือB3 ถือว่าสมดุลสุด โดยจะลดลงลิตรละ 50 สตางค์ แต่จะต้องเสียเงินเพิ่มในเรื่องของภาษีสรรพสามิตที่ต้องจ่ายแพงขึ้นมาอีกประมาณ 25 สตางค์ จึงยังเป็นเรื่งที่ต้องหารืออย่างรอบคอบ การลดสัดส่วนก็อาจเป็นอีกทางเลือก เดิม B5 สิ้นสุดเดือน พ.ค. จะเสนอกบง.ต่อ ต้องได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้”