ท่อน้ำมันดิบรั่วกลางทะเลมาบตาพุด 4 แสนลิตร – ทส. สั่งเร่งควบคุมน้ำมันรั่ว ลดผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่ง


ท่อน้ำมันดิบใต้ทะเลนิคมมาบตาพุดรั่วไหล ล่าสุดสตาร์ ปิโตรเลียมฯ คุมเหตุได้แล้ว ด้านทส. สั่งการหน่วยงานใน ทส. ร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งควบคุมน้ำมันจากการรั่วไหลและลดผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่ง จากเหตุการณ์ดังกล่าวมีน้ำมันดิบไหลลงทะเลประมาณ 400,000 ลิตร คาดเคลื่อนตัวเข้าหาดแม่รำพึง – เสม็ด 28 ม.ค.นี้

25 มกราคม 2565 เวลา 21.06 น. บริษัท สตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) ได้ออกแถลงการณ์ ถึงการพบน้ำมันดิบรั่วไหล บริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเล หรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล (SPM) ของบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) ซึ่งตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง โดยบริษัทฯ ได้ระดมทีมเพื่อควบคุมสถานการณ์ตามแผนรับมือเหตุฉุกเฉิน พร้อมทั้งหยุดกิจกรรมในพื้นที่ใกล้เคียงทั้งหมดตามขั้นตอนความปลอดภัย และได้มีการแจ้งหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ ชุมชน ศูนย์เฝ้าระวังและควบคุมสิ่งแวดล้อม ศูนย์บัญชาการตอบโด้สถานการณ์ฉุกเฉินและกระจายข่าว และกลุ่มบริษัทข้างเคียง

และในภายหลังสถานการณ์ควบคุมได้ สามารถหยุดการรั่วไหลได้ตั้งแต่เวลา 00:18 น. ของวันนี้ และได้ดำเนินการใช้เรือฉีดพ่นน้ำยาขจัดคราบน้ำมัน เนื่องจากเวลาที่เกิดเหตุเป็นเวลากลางคืน บริษัทฯ จะทำการสำรวจบริเวณที่เกิดเหตุในเช้าวันนี้ เพื่อประเมินสถานการณ์ต่อไป

ด้านกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) โดย นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้สั่ง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) และ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ร่วมกับกองทัพเรือ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งควบคุมน้ำมันรั่ว

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า คพ. ได้รับการประสานทางโทรศัพท์จากหน่วยงาน สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) เมื่อเวลา 00.10 น. ในวันที่ 26 มกราคม 2565 ว่ามีน้ำมันดิบรั่วไหลจำนวน 400,000 ลิตร จากท่อใต้ทะเลของทุ่นรับน้ำมันดิบกลางทะเล ในบริเวณมาบตาพุด จังหวัดระยอง จุดเกิดเหตุ คือ บริเวณทุ่นรับน้ำมันดิบกลางทะเล (SPM) ซึ่งเกิดเหตุเมื่อ เวลา 21.06 น. ในวันที่ 25 มกราคม 2565 และจำเป็นต้องยับยั้งไม่ให้น้ำมันเคลื่อนที่เข้าสู่ฝั่ง เนื่องจากลมมีทิศพัดขึ้นไปทางด้านเหนือ อาจจะมีผลกระทบต่อบริเวณจังหวัดระยองได้ และหลังจากที่เกิดเหตุทีมตอบโต้ภาวะฉุกเฉินบริษัทได้ทำการควบคุมสถานการณ์ตามขั้นตอนการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉินและได้ทำการหยุดกิจกรรมในพื้นที่ใกล้เคียงทั้งหมดตามขั้นตอนความปลอดภัย สามารถควบคุมและหยุดการรั่วไหลตั้งแต่เวลา 00.10 น. ของวันนี้

นายอรรถพล กล่าวว่า นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรี ทส. ได้รับทราบและมีข้อสั่งการให้หน่วยงานใน ทส. โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) และ คพ. สนับสนุนการแก้ไขปัญหาดังกล่าวร่วมกับกองทัพเรือ จังหวัดระยอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อควบคุมน้ำมันจากการรั่วไหลและลดผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่ง จากเหตุการณ์ดังกล่าวได้มีน้ำมันดิบไหลลงทะเลประมาณ 400,000 ลิตร คพ. ได้รับการประสานจากบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) จำเป็นต้องยับยั้งไม่ให้น้ำมันเคลื่อนที่เข้าสู่ฝั่ง เนื่องจากลมมีทิศพัดขึ้นไปทางด้านเหนือ อาจจะมีผลกระทบต่อบริเวณจังหวัดระยองได้

คพ. ได้สนับสนุนการใช้แบบจำลอง OilMap ทำนายการเคลื่อนที่ของคราบน้ำมันในทะเล โดยผลของแบบจำลอง OilMap แสดงให้เห็นว่าไม่มีการควบคุมป้องกัน กลุ่มน้ำมันดังกล่าวอาจเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งทะเลบริเวณหาดแม่รำพึงถึงบริเวณอุทยาแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ในวันที่ 28 มกราคม 2565 เวลา 17.00 น. ประมาณ 180,000 ลิตร ทั้งนี้ทางบริษัทจึงควรดำเนินการวางแผนในการจัดการคราบน้ำมันดังกล่าว และป้องกันผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น ซึ่งในวันนี้ อธิบดี ทช. พร้อม อธิบดี คพ. ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง และหน่วยงานตำรวจ ร่วมลงเรือไปติดตาม ณ พื้นที่จุดเกิดเหตุดังกล่าว

ผลการคาดการณ์ดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงของทิศทางลม ความเร็วลม และกระแสน้ำ โดย คพ. จะประสานรับข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อปรับค่าในแบบจำลองให้ใกล้เคียงกับสภาพความเป็นจริงต่อไป นายอรรถพล กล่าว


เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เอง โดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรังปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save