Beat Air Pollution เป็นหัวข้อหลักที่โครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UN) ได้กำหนดให้เป็นเรื่องสำคัญสำหรับการรณรงค์ในวันสิ่งแวดล้อมโลกปี 2562 โดยมีจีนเป็นเจ้าภาพ ภายใต้แนวคิดที่ว่า “We can’t stop breathing, but we can do something about the quality of air that we breathe” หรือ “ในเมื่อเราไม่สามารถหยุดหายใจได้ เราก็ทำบางอย่างเพื่อพัฒนาคุณภาพอากาศที่เราหายใจกันดีกว่า” โดยให้ความสำคัญในเรื่องการลดมลภาวะทางอากาศด้วยการใช้พลังงานทดแทน และเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม
บริษัท 3เอ็ม ผู้นำด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของทุกคนให้ดีขึ้น ยังคงตอกย้ำนโยบายและความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจตามหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน ด้วยการนำวิทยาศาสตร์มาพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมโลก โดยมุ่งเน้น 3 เรื่องหลัก ได้แก่ วิทยาศาสตร์เพื่อเศรษฐกิจหมุนเวียน (Science for Circular) ออกแบบโซลูชั่นที่ใช้วัสดุน้อยลง และใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้คุ้มค่า วิทยาศาสตร์เพื่อสภาพภูมิอากาศ (Science for Climate) นวัตกรรมที่ช่วยลดก๊าซคาร์บอนฯ จากโรงงานอุตสาหกรรม เร่งแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศโลกและปรับปรุงสภาพแวดล้อม และวิทยาศาสตร์เพื่อชุมชน (Science for Community) โดยสร้างแรงบันดาลใจให้กับชุมชนร่วมพัฒนาสังคมผ่านการนำวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้
นางสาวนภาพร รัตนแสงหิรัญ กรรมการผู้จัดการบริษัท 3เอ็ม ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า “จากข้อมูลสหประชาชาติเรื่องสภาวะทางอากาศพบว่า 92% ของคนทั่วโลกหายใจรับอากาศที่ปนเปื้อนมลพิษ หรือตีค่าเฉลี่ยออกมาถึง 9 ใน 10 คน สาเหตุของมลพิษพวกนี้มาจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงภายในอาคารบ้านเรือน โรงงานอุตสาหกรรม การเดินทางคมนาคม การเกษตร และการกำจัดของเสียต่าง ๆ 3เอ็มเล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าว เมื่อปลายปี 2561 ที่ผ่านมา บริษัทฯ จึงได้ประกาศพันธสัญญาข้อตกลงด้านความยั่งยืนในการออกผลิตภัณฑ์ของ 3เอ็ม ตั้งแต่ต้นทางการผลิตในการเลือกวัสดุ ที่ต้องสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำ หรือลดขยะและของเสีย ลดการใช้พลังงาน หรือผลกระทบด้านอากาศ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง รวมถึงมีการใช้พลังงานทดแทน 100% ที่สำนักงานใหญ่ 3เอ็ม ในสหรัฐเมริกาด้วย”
นอกจากนี้ 3เอ็ม ยังได้พัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์การลดมลภาวะทางอากาศให้กับลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicles) โดยร่วมผลิตส่วนประกอบแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งต้องใช้เทคโนโลยีจากหลากหลายแพลตฟอร์ม อาทิ 3M™ Novec™ เทคโนโลยีของเหลวที่ออกแบบมาเพื่อควบคุมความร้อนและให้ความเย็นกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และแบตเตอรี่, 3M™ E-A-R™ วัสดุกันกระแทก ที่ช่วยยืดอายุแบตเตอรี่โดยป้องกันการสั่นสะเทือนจากโครงสร้าง, เทปกาวยึดติดส่วนประกอบที่มีแรงยึดติดสูงทนต่อสภาวะความร้อนได้ดี รวมถึงวัสดุที่ช่วยให้น้ำหนักเบา ช่วยให้ระยะการขับขี่ยาวนานขึ้น และวัสดุฉนวนของ 3M ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวมของแบตเตอรี่
“ในส่วนของ 3เอ็ม ประเทศไทย เรายังได้แนะนำผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดมลพิษทางอากาศให้กับลูกค้าด้วยเช่นกัน อาทิ กาวที่ใช้ในงานก่อสร้าง 3M ใช้เทคโนโลยีที่ช่วยลดสาร VOC หรือสารอินทรีย์ระเหยง่ายในบรรยากาศ (Volatile Organic Compounds) เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนและสิ่งแวดล้อม รวมถึงเรายังมีการควบคุมและวัดผลการปล่อยสาร VOC จากกระบวนการผลิตของ 3เอ็ม อีกด้วย นอกจากนี้ ในการป้องกันมลภาวะทางอากาศที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน 3เอ็ม ได้เสนอผลิตภัณฑ์หน้ากากป้องกันฝุ่นละอองหรือมลพิษให้แก่คนทำงานในอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยง รวมถึงหน้ากาก แผ่นกรองอากาศ และเครื่องฟอกอากาศที่เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคทั่วไปด้วยเช่นกัน” นางสาวนภาพร กล่าวเสริม
รายงานผลของการควบคุมมลภาวะทางอากาศของ 3เอ็ม โกลบอล พบว่า จากการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา มีการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดีขึ้น โดยเพิ่มการใช้พลังงานทดแทนอยู่ที่ 26.8% สูงเกินเป้าที่ตั้งไว้ถึง 25% และลดการปล่อยของเสียลง 63.7% ซึ่งมากกว่าที่ตั้งเป้าไว้ถึง 50% ตลอดจนลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงมากกว่า 40 ล้านตัน สามารถติดตามรายงานการดำเนินงานความยั่งยืนของ 3เอ็ม ได้ทาง https://www.3m.com/3M/en_US/sustainability-us/annual-report/