สหฟาร์ม เปิดตัวโครงการ GO Green ในงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2025 เดินหน้าโครงการพลังงานสะอาด 14 โครงการ ลดการปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ถึง 30,000 ตันต่อปี


กรุงเทพฯ : บริษัท สหฟาร์ม จำกัด (Saha Farms) ผู้นำอุตสาหกรรมไก่ไทยและผู้ส่งออกรายใหญ่ของประเทศ ยกทัพผลิตภัณฑ์ไก่สด ไก่แปรรูป และปลาดุกคุณภาพระดับโลก จัดแสดงในงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2025: Beyond Food Experience ระหว่างวันที่ 27 – 31 พฤษภาคม 2568 ณ บูธ 2-U29 อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 2 เมืองทองธานี ตอกย้ำความพร้อมในการขับเคลื่อนองค์กรสู่การเติบโต “สองหลัก” (Double-digit growth) ในปี 2568 ท่ามกลางแนวโน้มตลาดโลกที่เอื้ออำนวยและศักยภาพการผลิตที่เข้มแข็ง พร้อมเปิดตัวโครงการ GO Green ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ ESG (Environmental, Social, and Governance) ที่มุ่งลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม มุ่งเติบโตสู่ความยั่งยืน

ดร.จารุวรรณ โชติเทวัญ
ดร.จารุวรรณ โชติเทวัญ (ซ้าย) ประธานสายการตลาดต่างประเทศ บัญชี และการเงิน บริษัท สหฟาร์ม จำกัด

ดร.จารุวรรณ โชติเทวัญ ประธานสายการตลาดต่างประเทศ บัญชี และการเงิน บริษัท สหฟาร์ม จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มการค้าโลกในปีนี้เปิดโอกาสสำคัญให้กับผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะเมื่อหนึ่งในผู้ส่งออกไก่รายใหญ่ของโลกอย่างบราซิลประสบปัญหาการส่งออก เนื่องจากไข้หวัดนก ส่งผลให้ความต้องการสินค้า “ไก่ไทย” เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ สร้างโอกาสให้สหฟาร์มสามารถเปิดตลาดใหม่ในเกาหลีใต้ ซึ่งนำเข้าไก่จากบราซิลถึง 80% รวมทั้งฟิลิปปินส์ ซึ่งให้การตอบรับไก่ไทยเป็นอย่างดี ปัจจุบันสหฟาร์มส่งออกไก่ไปยังตลาดใน 37 ประเทศ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ยอดขายเพิ่มขึ้นใน 10 ประเทศ ในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มียอดขายกว่า 30,000 ล้านบาท คาดว่าในปีนี้ยอดขายจะเติบโต “สองหลัก” (Double-digit Growth) ท่ามกลางแนวโน้มตลาดโลกที่เอื้ออำนวยและศักยภาพการผลิตที่เข้มแข็ง

“สหฟาร์มสามารถปิดออเดอร์ได้รวดเร็วขึ้น รายได้เติบโตชัดเจน พร้อมเดินหน้าขยายตลาดใหม่อย่างต่อเนื่อง ขณะที่เรายังไม่มีความเสี่ยงจากภาษีส่งออก แต่ก็เฝ้าระวังอัตราแลกเปลี่ยนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการแข็งค่าของเงินบาทที่อาจกระทบต่อความสามารถในการแข่งขัน”

สำหรับไฮไลต์สำคัญของการเข้าร่วมงานในปีนี้ คือการเปิดตัวแคมเปญใหม่ “Halal With Heart – ฮาลาลด้วยหัวใจ” ซึ่งเกิดจากแรงบันดาลใจหลังสหฟาร์มคว้ารางวัล Prime Minister’s Export Award 2024 สาขา Best Halal โดยแคมเปญนี้เน้นย้ำว่า “ฮาลาล” ของสหฟาร์มไม่ใช่เพียงการผ่านเกณฑ์มาตรฐาน แต่คือระบบการผลิตที่ยึดหลักศรัทธา ความเข้าใจ และความรับผิดชอบ โดยมีทีมงานชาวมุสลิมดูแลทุกขั้นตอนอย่างใกล้ชิด เพราะเราต้องการให้ทุกคำที่บริโภคคือความมั่นใจ ทั้งในด้านสุขอนามัย ความปลอดภัย และความเคารพในหลักศาสนา

ดร.จารุวรรณ กล่าวต่อว่า ภายในงาน THAIFEX ปีนี้ สหฟาร์มยังเตรียมโชว์วิสัยทัศน์ด้านความยั่งยืนผ่านการเปิดตัวโครงการ GO Green ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ ESG (Environmental, Social, and Governance) ที่มุ่งลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม โดยในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้จับมือกับ WHA Group ดำเนินโครงการพลังงานสะอาด ได้แก่ โซลาร์ฟาร์ม, โซลาร์รูฟ และโซลาร์โฟลทติ้ง รวม 10 โครงการ ซึ่งสามารถประหยัดค่าไฟได้ถึง 10 ล้านบาท/เดือน และอีก 4 โครงการอยู่ระหว่างการดำเนินการ คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคม เมื่อโครงการทั้งหมดแล้วเสร็จ คาดว่าจะลดการปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ได้สูงถึง 30,000 ตันต่อปี และบริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างศึกษาแนวทางเปลี่ยนการใช้ถ่านหินในโรงงาน มาใช้พลังงานชีวมวล (Biomass) เพื่อการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว

“ การเข้าร่วมงาน THAIFEX ปีนี้ นับเป็นครั้งที่สองหลังจากสหฟาร์มออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ โดยการปรากฏตัวเมื่อปีที่ผ่านมาได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม มีผู้เข้าชมบูธจำนวนมาก และเกิดการเจรจาทางธุรกิจจริงกับพันธมิตรจากหลากหลายประเทศ ปีนี้เราจะต่อยอดความสำเร็จ สานสัมพันธ์พันธมิตรเดิม ขยายเครือข่ายใหม่ พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพของไทยสู่สายตาโลก” ดร.จารุวรรณ กล่าวทิ้งท้าย