ภาวะไตวาย คืออาการทางกายที่ปรากฏขึ้นให้เห็นถึงสภาพการเปลี่ยนแปลงการทำงานของไตในแนวทางที่แย่ลง จากการผิดปกติหรือโรคภัยไข้เจ็บที่เกิดขึ้นกับ “ไต” ทั้ง 2 ข้างของเรา รุนแรงถึงขั้นที่ไตเริ่มสูญเสียหน้าที่การทำงานของตัวไตเอง โดยปกติไตของคนเรามี 2 ข้างอยู่บริเวณบั้นเอวออกไปทางด้านข้าง ไตแต่ละข้างมีจำนวนเซลล์อยู่ประมาณข้างละ 400 ล้านเซลล์ เพื่อกลั่นกรองของเสียต่างๆ ที่สะสมในร่างกายจากการรับประทานอาหาร น้ำดื่ม รวมถึงยารักษาโรคที่คุณหมอจัดให้เราเวลาที่เราไม่สบายและพบกับคุณหมอ
นอกจากนี้ยังมียาบางอย่างที่ผู้ป่วยไปหาซื้อมาทานเอง รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งหลายและบุหรี่ สารพิษต่างๆ เหล่านี้ร่างกายจัดส่งมาที่ไต ซึ่งไตมีหน้าที่กลั่นกรองสารพิษและขับออกจากร่างกายในรูปของเหลวน้ำปัสสาวะ ดังนั้นน้ำปัสสาวะจึงเป็นของเหลวที่สกปรก ไตยังมีหน้าที่หลักช่วยปรับสภาพภายในของร่างกายให้มีภาวะกรดและด่างให้สมดุลเพื่อมิให้เป็นสารพิษทำลายไตและโครงสร้างอื่นๆ ของร่างกาย
ผู้ป่วยมีปัญหาเรื่องไตผิดปกติจนกลายเป็นสาเหตุของโรคไต เช่น นิ่วในไต การติดเชื้อในไต และการเจ็บป่วยต่างๆ มีส่วนทำลายโครงสร้างของเซลล์ไตด้วย เซลล์ไตถูกทำลายไปอย่างรวดเร็วเรียกว่า ไตวายเฉียบพลัน เซลล์ไตเสียหายอย่างรวดเร็ว เกิดการสูญเสียการทำงานของไต เรียกว่า ไตวาย
นอกจากนี้ยังมีผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคเกาต์ขั้นรุนแรง โรคภูมิแพ้ตัวเอง (เอส แอล อี) สภาพของโรคต่างๆ เหล่านี้มีผลทำลายเซลล์ไตอย่างช้าๆ และเรื้อรัง เราจึงมักจะพบบ่อยที่ผู้ป่วยเป็น โรคไตวายเรื้อรัง มีอาการและสภาพแขน-ขาบวม ใบหน้าบวม ไม่ว่าจะเป็นไตวายเฉียบพลันหรือไตวายเรื้อรัง ถือว่าผู้ป่วยเป็นโรคไตวายแล้ว แพทย์จะต้องจำกัดน้ำดื่มต่อผู้ป่วย และให้ยาขับปัสสาวะเพื่อดูแลและป้องกันมิให้แขน-ขาบวม ใบหน้าบวม และยังช่วยป้องกันโรคแทรกซ้อน และดูแลมิให้ไตวายมากไปกว่านี้ ซึ่งไตอยู่ในขั้นวิกฤต คือ เริ่มจะไม่กลั่นกรองน้ำปัสสาวะได้น้อยลง เซลล์ไตเสียหายไปเรื่อยๆ จนเซลล์ไตเหลือทำงานอยู่เพียงข้างละ 20% คุณหมอคงต้องแนะนำให้ฟอกไต
การฟอกไต คือ การใช้เครื่องจักรที่ตั้งค่ารายการให้เครื่องช่วยฟอกไตทำหน้าที่แทนการทำงานของไต โดยมีท่อยางใส่เข้าไปในหลอดเลือดแดงและหลอดเลือดดำ เพื่อเลือดเสียมาทางท่อยางเพื่อรับเลือดเสียไปทำการฟอกในเครื่องฟอกไตและของเสียถูกกำจัดออกจากกระแสเลือดแล้วจะกลายเป็นเลือดแดง ซึ่งมีท่อนำเลือดแดงที่ถูกฟอกเรียบร้อยแล้วไหลผ่านกลับเข้าสู่ร่างกายเพื่อใช้ประโยชน์ต่อร่างกายต่อไป ทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
การป้องกันมิให้เกิดภาวะไตวาย
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และเพียงพอกับความต้องการของร่างกาย
- ระวังอาหารหวาน มัน เค็ม รสต้องไม่จัดใน 3 รสนี้ มีผลให้ไตทำงานหนักมากขึ้น และเซลล์ไตจะเสื่อมเร็ว
- หมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อร่างกายขับเหงื่อและปรับความสมดุลของภาวะปกติของเซลล์ไต
- ไม่อั้นปัสสาวะ และต้องดื่มน้ำวันละ 6-8 แก้ว (1เพื่อร่างกายไม่ขาดน้ำ)
- อารมณ์แจ่มใสและพักผ่อนให้เพียงพอ
- ระบบขับถ่ายดีไม่ท้องผูก
การป้องกันมิให้เกิด “ ภาวะไตวาย” เป็นการดีที่สุด มีระบบไหลเวียนโลหิตดีและภูมิต้านทานร่างกายดี ย่อมห่างไกลจากภาวะไตวายได้เป็นอย่างดี ฝึกปฏิบัติพื้นฐานตั้งแต่อายุยังน้อย เมื่ออายุที่มากขึ้นจะได้ห่างไกลจากภาวะไตวายได้เป็นอย่างดี
ที่มา: หมอโฆษิต