กรุงเทพฯ : บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทยที่มุ่งเน้นตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบครบวงจร มุ่งมั่นร่วมกับพันธมิตรผสานความยั่งยืนทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการตามมาตรฐานระดับโลกในกระบวนการดำเนินธุรกิจ ทำให้ได้รับคะแนนการประเมินด้านความยั่งยืนจาก S&P Corporate Sustainability Assessment (S&P CSA) สูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลกในกลุ่มอุตสาหกรรมโรงแรม รีสอร์ท และเรือสำราญในปี 2024 และได้รับการจัดอันดับอยู่ใน Top 1% ของ S&P Global Sustainability Yearbook 2025 และยังได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices: DJSI) ในกลุ่มดัชนีตลาดเกิดใหม่ (DJSI Emerging Markets Indices) อย่างต่อเนื่อง สะท้อนความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจโดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนเพื่อร่วม “สร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่า” และสนับสนุนประเทศไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก
วัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จํากัด (มหาชน) (AWC) กล่าวว่า “AWC ขอขอบคุณพันธมิตรและผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนที่ได้มุ่งมั่นร่วมกันสร้างคุณค่าองค์รวมผ่านการพัฒนาโครงการคุณภาพระดับโลกตลอดปีที่ผ่านมา การประเมินความยั่งยืนของ S&P Global ช่วยให้ AWC สามารถวางกลยุทธ์และนโยบายด้านความยั่งยืนต่างๆ ให้ครอบคลุมตามมาตรฐานระดับโลก และสร้างผลกระทบเชิงบวกร่วมกับผู้บริหาร พนักงาน และพันธมิตร เพื่อสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ให้กับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย พร้อมขอเชิญชวนทุกคนผนึกกำลังเพื่อร่วมสร้างสรรค์อนาคตที่ดีกว่าไปด้วยกัน เพื่อสนับสนุนประเทศไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับโลก”
ความสำเร็จนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ AWC ในการขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้กรอบการดำเนินงานด้านความยั่งยืน หรือ 3BETTERs ประกอบด้วย BETTER PLANET, BETTER PEOPLE และ BETTER PROSPERITY ที่ให้ความสำคัญกับการสร้างคุณค่าองค์รวมอย่างยั่งยืนในทุกมิติ โดยคำนึงถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย นอกจากนี้ AWC ยังได้รับรางวัลด้านความยั่งยืนทั้งในระดับประเทศและระดับโลกอื่นๆ อีกมากมาย อาทิ การได้รับผลประเมิน หุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ที่ระดับ ‘AA’ ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง (Property & Construction) จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมถึงการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของ FTSE4Good Index Series ซึ่งจัดอันดับโดย FTSE Russell ครอบคลุมการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสังคม และด้านธรรมาภิบาล ตอกย้ำความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระดับสากล