Global Wellness Institute (GWI) ระบุว่า “ธุรกิจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ” ได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางใหม่ และเติบโตสูงกว่าธุรกิจอื่นๆ ที่คาดว่าจะมีการเติบโตเฉลี่ยที่ 21% ต่อปี จากปัจจัยด้านพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมารักษาสุขภาพกันมากขึ้น หลังจากการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ขณะที่ประเทศไทยเองก็เริ่มเห็นผู้ประกอบการชุมชนลุกขึ้นมาพัฒนาแนวทางนี้ด้วยหัวใจของความยั่งยืน
จากการจัดอันดับ GWI ในปี 2020 จะเห็นได้ว่า ประเทศไทยมีมูลค่าตลาดในธุรกิจ “Wellness Tourism” ที่ 4.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยอยู่ในอันดับที่ 15 ของโลก พร้อมตั้งเป้าหมายที่จะพัฒนาให้อยู่ใน 1 ใน 5 อันดับแรก ภายในปี 2027
เช่นเดียวกับ บริษัท เพลินไพร ออร์แกนิค วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด หรือ “เพลินไพร” ตั้งอยู่ในอำเภอหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเป็นตัวอย่างธุรกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่มีความโดดเด่นด้านภูมิปัญญาสมุนไพรและแนวคิดเกษตรอินทรีย์ สู่การสร้างแบรนด์ให้เติบโตไปพร้อม ชุมชนได้อย่างยั่งยืน
จุดเริ่มต้น “เพลินไพร” วิสาหกิจเพื่อสังคม สู่การทำเกษตรอินทรีย์จริง 100 แปลง

นายแพทย์นรุตม์ อภิชาตอำมฤต นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ โรงพยาบาลหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ และผู้ประกอบการกิจการเพื่อสังคม “เพลินไพร” กล่าวว่า เพลินไพรเกิดจากความพยายามทำความเข้าใจกับปัญหาที่แท้จริงของชุมชนชนบท และต้นตอของวงจรเกษตรเคมีเชิงเดี่ยว ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกษตรกรขาดทุน มีหนี้สิน วัยแรงงงานต้องย้ายถิ่น จนเกิดปัญหาครอบครัวเปราะบาง และไม่สามารถหลุดจากวงโคจรนี้ได้ เราจึงมองเห็นแนวทางในการ “ขยับวงจรเกษตรเคมี” ให้กลายเป็น “วงจรเกษตรยั่งยืน” เพื่อสร้างโมเดลการพัฒนาชนบทใหม่
“กว่า 9 ปีที่ผ่านมา เราใช้เวลาหลังเลิกงานลงพื้นที่ทำเกษตรอินทรีย์ ปลูกสมุนไพรพื้นถิ่นอย่าง ขมิ้น ไพล มะกรูด โดยไม่ใช้สารเคมี และตั้งเป้าให้สมุนไพรเหล่านี้เป็น “ยารักษาชีวิต” ของคนและของแผ่นดินแม้จะมีความตั้งใจที่ดีและวัตถุดิบชั้นเยี่ยมอยู่ในมือ จนปัจจุบันมีเกษตรกรผ่านการอบรมกว่า 400-500 คน และทำเกษตรอินทรีย์จริงราว 100 แปลง เมื่อเครือข่ายเริ่มแข็งแกร่งขึ้นก็ได้ร่วมกันสร้างระบบรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ของจังหวัด” นายแพทย์นรุตม์ กล่าว
โครงการ BC4C สานธุรกิจ เติบโตคู่ชุมชนและสิ่งแวดล้อม
อย่างไรก็ตาม เพลินไพรกลับเผชิญกับความท้าทายทั้งในด้านการบริหารจัดการ การตลาด และการสื่อสารคุณค่าของแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก เรียกง่าย ๆ ว่าต้องการเติบโตแต่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไรให้สมดุลระหว่างความยั่งยืนกับการขายได้จริง
ดังนั้นเพลินไพรจึงได้สมัครเข้าร่วมโครงการ BC4C ในปีที่ 13 เพื่อเข้าสู่กระบวนการพัฒนาศักยภาพกิจการระยะขยายผล (Acceleration Program) และต่อเนื่องใน BC4C ปีที่ 14 ภายใต้แนวทาง Precision Coaching ที่เข้มข้นของโครงการฯ ที่ไม่ได้สอนให้ทำธุรกิจเก่งขึ้นเท่านั้น แต่ยกระดับความคิด ความสามารถ และคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนไปพร้อมกัน ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่ผลักดันศักยภาพของเพลินไพร ช่วยให้บรรลุเป้าหมายในการกำหนดเป้าหมายการสื่อสาร การขยายฐานลูกค้าและการสร้างรายได้ ได้อย่างชัดเจนและมีทิศทาง
3 กลยุทธ์เสริมจุดแข็ง สร้างรายได้สู่ชุมชน

เพลินไพรสามารถสร้างจุดแข็งและคุณค่าที่เชื่อมโยง ระหว่างสุขภาพ ชุมชน และสิ่งแวดล้อมเข้าด้วยกัน โดยโค้ชผู้เชี่ยวชาญได้เข้ามาช่วยเปลี่ยนวิธีคิดและปรับกลยุทธ์ 3 ด้านสำคัญ ได้แก่
1. พลิกโมเดลธุรกิจ (Business Model) เปลี่ยนจากการมุ่งขายผลิตภัณฑ์ (Product-centric) สู่การสร้างประสบการณ์ (Experience-centric) ในรูปแบบ “Wellness Tourism” โดยใช้ชุมชนเป็นศูนย์กลาง สร้างจุดแข็งที่เชื่อมโยง สุขภาพ – ชุมชน – สิ่งแวดล้อม เข้าด้วยกันอย่างลงตัว
2. สร้างเอกลักษณ์และปรับทิศทางแบรนด์ (Brand Model) กำหนดตัวตนแบรนด์และกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจนขึ้น พร้อมวางกลยุทธ์คอนเทนต์ที่สร้างคุณค่า เช่น การให้ความรู้เรื่องอาหารที่ผ่านกระบวนการแปรรูปมากเป็นพิเศษ (Uitra-processed Food) ที่กลายเป็นไวรัล มียอดเข้าชมกว่า 1 ล้านครั้ง และผลักดันให้มีผู้ติดตามบน Facebook เพิ่มขึ้นจาก 3,000 เป็น 11,000 คน ภายในระยะเวลา 3 เดือน
3. การวางกลยุทธ์การสื่อสาร (Communication Strategy) เสริมพลังแบรนด์ด้วยแผนสื่อสาร ที่มีเป้าหมายและทิศทางชัดเจน กำหนดกลุ่มเป้าหมายหลัก (Target Audience) รวมถึงการสร้างเรื่องราวให้แบรนด์ (Brand Storytelling) ที่สือถึงคุณค่าของ “สุขภาพ-ชุมชน-สิ่งแวดล้อม” ที่เข้าถึงใจผู้บริโภค เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง

“บ้านปู”อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ ภายใต้การโค้ชชิ่งเชิงลึก
สำหรับโครงการ Banpu Champions for Change (BC4C) ในปีนี้ ได้ปรับรูปแบบ Acceleration Program จากกิจกรรมที่เน้นการเชื่อมโยงผู้ประกอบการกับ นักลงทุน มาสู่การพัฒนา “คุณภาพการเติบโต” ของกิจการในเชิงลึก ผ่านแนวทาง โค้ชชิ่งเชิงลึก (Precision Coaching) หรือการ “โค้ชแบบเฉพาะบุคคล” ที่ออกแบบกระบวนการให้เหมาะกับแต่ละกิจการโดยอาศัยการวิเคราะห์จุดแข็งและโอกาสในการพัฒนา พร้อมการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่าง ผู้เชี่ยวชาญและผู้ประกอบการ เพื่อค้นหาแนวทางที่สอดคล้องกับ จริต บริบท และเป้าหมายเฉพาะของแต่ละกิจการ ซึ่งแนวทางนี้จะช่วยเสริมความพร้อมในการเข้าถึงแหล่งทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างผลลัพธ์ที่ยั่งยืนกว่าเดิม

รัฐพล สุคันธี ผู้อำนวยการสายอาวุโส-สื่อสารองค์กร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บ้านปูในฐานะ Co-Pilot หรือคู่ขับเคลื่อนกิจกรรมนี้ โดยร่วมกับ โค้ชเอก – สุพลชัย กีรติขจร ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์ และมีประสบการณ์ช่วยเหลือธุรกิจเพื่อสังคมมานานกว่า 8 ปีได้เชื่อมโยงและนำความเชียวชาญจากภาคธุรกิจ มาช่วยวางระบบและขับเคลื่อนผู้ประกอบการกิจการเพื่อสังคม ให้เติบโตอย่างมีทิศทางและมันคง
หนึ่งในตัวอย่างความสำเร็จที่ชัดเจนคือ ‘เพลินไพร‘ ธุรกิจชุมชนที่มีความโดดเด่นด้านภูมิปัญญาสมุนไพรและแนวคิดเกษตรอินทรีย์ แต่ยังต้องการการพัฒนา ด้านระบบการบริหารจัดการและกลยุทธ์การสื่อสารแบรนด์ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อสื่อสารคุณค่าให้ตลาดและ ผู้บริโภคในวงกว้างเข้าใจ

“เราจึงเข้ามาทำหน้าที่สร้างกลไกการเรียนรู้และการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้ประกอบการมีทั้งความรู้ เครื่องมือ และความมั่นใจในการยืนได้ด้วยตนเอง รวมถึงเป็น สะพานเชื่อมให้ผู้ประกอบการเข้าถึงโอกาส และเปลี่ยน “ความตั้งใจดีของชุมชน” ให้กลายเป็น “แบรนด์ที่แข็งแกร่งและยืนหยัดได้จริง”ในตลาด” รัฐพล กล่าว
เดินหน้าขยายวิสาหกิจชุมชนเป็น “เพลินไพรโฮม” ตอบรับตลาด “Wellness Tourism”
นายแพทย์นรุตม์ กล่าวเสริมว่า การโค้ชชิ่งอย่างเข้มข้นของโครงการ BC4C ได้สร้างผลกระทบที่วัดผลได้จริงให้กับเพลินไพรในทุกมิติ ด้านธุรกิจสามารถสร้างอัตราการเติบโตของรายได้เฉลี่ยสูงถึง 65% ในช่วง 3 เดือน (ปลายเดือน พ.ค.-ส.ค.2568) ด้านชุมชนได้ขยายเครือข่ายสมาชิกวิสาหกิจชุมชนจาก 50 เป็น 80 คน และเกิดการริเริ่มโครงการ ‘เพลินไพรโฮม’ และการพัฒนาทีมนวดบำบัดในพื้นที่เพื่อรองรับการท่องเที่ยว รวมถึงด้านแบรนด์ที่สามารถยกระดับจากสมุนไพรบ้าน ๆ กลายเป็น แบรนด์ที่แข็งแกร่ง มีตัวตนชัดเจนในตลาด และพร้อมที่จะเติบโตไปอีกขั้น
“ปัจจุบันเพลินไพรมีทั้งส่วนผลิตภัณฑ์และส่วนบริการสุขภาพครบวงจร และสร้าง ‘เพลินไพรโฮม ‘ ให้เป็นพื้นที่เชื่อมคนเมืองกับชุมชน และได้ร่วมมือกับภาครัฐ โรงพยาบาล และภาคเอกชน จัดอบรมชาวบ้านให้เป็นผู้ดูแลสุขภาพในศูนย์ Wellness ของชุมชน เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ในการจัดทริปโปรแกรมดูแลสุขภาพตามธาตุ กำไลประจำธาตุ และอาหารตามธาตุ ซึ่งเรามั่นใจว่าเส้นทางนี้จะค่อยๆ เติบโตได้อย่างมั่นคง เพราะทุกการเติบโตของเรา คือรายได้ที่กลับคืนสู่ชุมชนทั้งหมด” นายแพทย์นรุตม์ กล่าว