กรุงเทพฯ – บ๊อช ได้รับรางวัล Prime Minister’s Road Safety Award สำหรับความมุ่งมั่นในการส่งเสริมความปลอดภัยทางถนนในประเทศไทย โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้มอบรางวัล ในงานสัมมนาวิชาการระดับชาติ เรื่องความปลอดภัยทางถนน ครั้งที่ 16
ภายใต้พันธกิจ “เทคโนโลยีเพื่อชีวิต” บ๊อช ได้ริเริ่มโครงการเพื่อความปลอดภัยและลดอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยอาศัยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ด้านการวิจัยอุบัติเหตุจราจรและระบบความปลอดภัยของยานพาหนะ โครงการนี้เริ่มต้นขึ้นในปี พ.ศ. 2561 โดย บ๊อช มีเป้าประสงค์ในการปรับปรุงรูปแบบการวิจัยอุบัติเหตุจราจร เพื่อช่วยให้การสืบสวนอุบัติเหตุทางถนนในประเทศไทยสามารถระบุปัจจัยหลักที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งปัจจัยบางประการเหล่านี้เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานของถนน การให้ความรู้และการสร้างความตระหนักรู้ รวมถึงระบบความปลอดภัยในยานพาหนะ
ในปี พ.ศ. 2566 ประเทศไทยมีรายงานผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางถนนถึง 808,127 ราย และเสียชีวิต 14,094 ราย (ที่มา: Thai RSC) ตอกย้ำถึงความจำเป็นอย่างยิ่งในการหาทางรับมือด้วยมาตรการต่างๆ การวินิจฉัยและหาทางออกเพื่อจัดการกับสาเหตุหลักที่นำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุทางถนน สามารถช่วยลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุทางถนนและการเสียชีวิตได้
“เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ผลงานด้านการส่งเสริมความปลอดภัยบนท้องถนนดังกล่าวได้รับการยอมรับ” โทมัส ลิช ผู้เชี่ยวชาญอาวุโสและหัวหน้าทีมวิจัยอุบัติเหตุระดับโลกของ บ๊อชกล่าว “ที่ บ๊อช เรามุ่งมั่นในการสร้างอนาคตเพื่อระบบความปลอดภัยขั้นสูงจะได้รับการติดตั้งในยานพาหนะทุกคัน ซึ่งจะช่วยให้การเดินทางปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับทุกคนบนท้องถนน ข้อมูลการวิจัยอุบัติเหตุที่มีคุณภาพมีส่วนช่วยให้เรายกระดับความปลอดภัยในการเดินทางได้ดีขึ้นในช่วงระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา จากการแบ่งปันความรู้ด้านการวิจัยอุบัติเหตุ เราหวังว่าผู้คนและสถาบันต่างๆ จะเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกและเทคโนโลยีเพื่อป้องกันอุบัติเหตุทางถนน เราเชื่อว่า สิ่งนี้สามารถเปลี่ยนแปลงและพัฒนามาตรฐานความปลอดภัยทางถนนและกำหนดเกณฑ์ใหม่สำหรับความปลอดภัยของยานพาหนะ”
แนวทางดังกล่าวอ้างอิงจากองค์ความรู้เชิงลึกระดับนานาชาติของบ๊อช ที่ใช้จัดการข้อมูลการสืบสวนอื่นๆ ที่ผ่านมา และจากการศึกษาวิจัยอุบัติเหตุเชิงลึกมาตรฐานเยอรมัน(GIDAS – www.gidas.org)
ในช่วงระยะเวลา 7 ปี ที่ผ่านมา บ๊อช ประเทศไทย ได้จัดให้มีการฝึกอบรมการเก็บสถิติอุบัติเหตุให้กับหน่วยงานภาครัฐ และงานวิจัยระบบเบรกร่วมกับสถาบันอุดมศึกษาต่างๆ ความพยายามเหล่านี้ช่วยพัฒนาทักษะด้านเทคนิคให้กับนักวิจัยในประเทศ เพื่อการปรับปรุงจุดเสี่ยงบนท้องถนนอย่างต่อเนื่อง