โรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ เป็นโรคที่พบบ่อยในสุภาพสตรีเป็นส่วนใหญ่ ด้วยภาวะการดำรงชีวิตที่มีการแข่งขันกันและงานเร่งรีบที่ต้องอาศัยความรวดเร็วในการทำงาน ก่อให้เกิดความตึงเครียดทั้งกายและใจของผู้ปฏิบัติงานทั้งชายและหญิง มีการละเลยการดูแลสุขภาพกายและใจไปบ้าง จึงเป็นสาเหตุก่อให้เกิดปัญหากระเพาะปัสสาวะอักเสบ
สาเหตุและอาการของกระเพาะปัสสาวะอักเสบ โดยปกติแล้วร่างกายของคนเราจะประกอบด้วยน้ำอยู่ถึง 80% เพื่อปรับความสมดุลภาวะความเป็นกรด-ด่างของร่างกาย สุขภาพที่ดี การทำงานของอวัยวะและระบบต่างๆ ของร่างกายต้องมีน้ำเป็นองค์ประกอบ ความเร่งรีบและตึงเครียดจากการทำงานทำให้ขาดความใส่ใจในเรื่องการ “ ดื่มน้ำ ” ให้เพียงพอกับที่ร่างกายต้องการ รวมถึงการอั้นปัสสาวะ ไม่ขับถ่ายออกมาในระยะเวลาที่เหมาะสม จึงเป็นที่มาของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ปกติร่างกายต้องการน้ำในปริมาณวันละ 6-8 แก้ว (1½ – 2 ลิตร) น้ำ 1 แก้วคิดเป็นปริมาณ 250 c.c. เมื่อดื่มน้ำน้อย ร่างกายจะขาดน้ำ ก่อให้เกิดการเสียสมดุลความเป็นกรด-ด่างในร่างกาย เลือดในร่างกายจะข้นและเหนียว การไหลเวียนของกระแสเลือดจะเฉื่อยลง เลือดมีสภาวะความเป็นกรดมากขึ้น อันเป็นที่มาของโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ของร่างกาย การเกิดโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ สาเหตุหลักมักจะเกิดจากการดื่มน้ำน้อยและอั้นปัสสาวะนานเกินไป เป็นเหตุให้น้ำปัสสาวะมีลักษณะข้น มีสิ่งสกปรกเจือปนจากสารพิษต่างๆ ทั่วร่างกาย รวมถึงเชื้อโรคที่ส่วนใหญ่เข้าสู่ร่างกายจากอาหารและน้ำดื่มที่มีสารปนเปื้อน รวมถึงเชื้อโรคด้วย เมื่อดื่มน้ำน้อยและอั้นปัสสาวะ เชื้อโรคถูกกักอยู่ในกระเพาะ ปัสสาวะและไม่ได้ถูกขับถ่ายออกมาในเวลาที่เหมาะสม เชื้อโรคเหล่านี้จึงก่อปฏิกิริยากับเนื้อเยื่อกระเพาะปัสสาวะ ท่อปัสสาวะ และหากรุนแรงจะมีผลทำให้เกิดกรวยไตอักเสบด้วย อาการที่เกิดขึ้นปัสสาวะแสบในท่อปัสสาวะ ปัสสาวะขัด ขับถ่ายไม่คล่องตัว ปัสสาวะไม่ออก จนถึงปัสสาวะเป็นเลือดปนออกมาด้วย มักเกิดในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เนื่องจากท่อปัสสาวะในผู้หญิงสั้นกว่าของผู้ชาย จึงเกิดการติดเชื้อได้ง่ายและแสดงอาการได้ง่ายกว่าในผู้ชาย นอกจากนี้อาจมีไข้ร่วมด้วย
การรักษา อาจปรึกษาเภสัชกรหรือพบแพทย์เพื่อการรักษาที่ถูกต้องต่อไป และมีข้อปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัด คือต้องดื่มน้ำที่สะอาดให้มากอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว (1½ – 2 ลิตร) ซึ่งกล่าวแล้วข้างต้น และไม่อั้นปัสสาวะ อาจต้องถ่ายปัสสาวะทุกๆ 1 ชั่วโมง
จะรู้สึกปวดปัสสาวะหรือไม่ก็ตาม ต้องขับถ่ายปัสสาวะออก เพื่อป้องกันและขจัดเชื้อโรคที่เป็นสาเหตุให้เกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบให้ออกไปจากกระเพาะปัสสาวะก่อนที่จะก่อปฏิกิริยาการอักเสบของกระเพาะปัสสาวะ ส่วนใหญ่แล้วจะหายเป็นปกติได้รวดเร็ว ยกเว้นผู้ที่มีกรวยไตอักเสบ อาจต้องใช้เวลาในการรักษาที่ยาวนานมากขึ้น
การป้องกัน มีข้อปฏิบัติตัวที่สำคัญอยู่ 2 ประการ คือ ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว (1½ – 2 ลิตร) และไม่อั้นปัสสาวะ ฝึกให้เป็นวินัยด้วยเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ไม่เกิน 1½ ชั่วโมง ควรต้องถ่ายปัสสาวะออกมาเพื่อปรับความสมดุลของร่างกาย และขับถ่ายเชื้อโรค (หากมี) ออกจากร่างกายก่อนที่จะก่อให้เกิดการอักเสบของกระเพาะปัสสาวะรวมถึงการออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อสร้างความแข็งแรงของร่างกาย เท่านี้ท่านจะห่างไกลจากโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้
ที่มา: หมอโฆษิต