พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงการจัดงาน “ดิจิทัล ไทยแลนด์ บิ๊กแบง 2019” ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ อีดี ว่า เป็นงานที่นำเสนอความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีได้ดี อยากให้พิจารณาควบคู่กับการเชื่อมโยงถึงโครงการสำคัญของรัฐบาล รวมถึงขอเสนอให้จัดหลักสูตรดิจิทัลระยะสั้น ต่อยอดให้กับเด็กมหาวิทยาลัยที่จะขึ้นชั้นปี 3 และ 4 เพื่อออกมาทำงานตอบสนองตลาดแรงงานที่เพิ่มขึ้น ควบคู่ไปกับการเรียน ไม่ต้องรอให้เด็กจบปี 4
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมด้วย ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า นำคณะผู้บริหารร่วมประชาสัมพันธ์งาน “ดิจิทัล ไทยแลนด์ บิ๊กแบง 2019” ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28-31 ตุลาคมนี้ที่ ไบเทค บางนา แก่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก่อนเข้าประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในช่วงเช้า
โดยนายกฯ กล่าวชมเชยว่า ดิจิทัล ไทยแลนด์ บิ๊กแบง เป็นงานที่นำเสนอความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีได้ดี แต่อยากให้พิจารณาควบคู่กับการเชื่อมโยงถึงโครงการสำคัญของรัฐบาล ทั้งในส่วนของระบบสาธารณสุข ดูเรื่องเหตุฉุกเฉิน เพิ่มผลผลิตทางเกษตร ตรวจสอบสภาพป่า เตือนภัยพิบัติ ต้องใช้ให้ได้จริง ให้ชาวบ้านได้ประโยชน์ พร้อมย้ำให้ดูเรื่องกฎหมายควบคู่ และให้ดำเนินการอย่างระมัดระวัง
นอกจากนี้ยังย้ำด้วยว่า ให้หามาตรการสร้างแรงจูงใจให้เด็กเข้ามาเรียนด้านเทคโนโลยีดิจิทัลเพิ่มขึ้น เพื่อให้เรียนได้ ใช้เป็น ทั้งโค้ดดิ้ง เทคโนโลยีหุ่นยนต์ ฯลฯ เพื่อพัฒนาไปสู่การเป็นโปรแกรมเมอร์ โดยมองว่า เทคโนโลยีดังกล่าวเด็กสนใจอยู่แล้ว แต่ยังขาดโอกาส ต้องหาทางว่าจะดึงเด็กกลุ่มนี้เข้ามาได้อย่างไร
“ขอเสนอให้จัดหลักสูตรระยะสั้น ต่อยอดให้กับเด็กมหาวิทยาลัยที่จะขึ้นชั้นปี 3 และ 4 เพื่อออกมาทำงานตอบสนองตลาดแรงงานที่เพิ่มขึ้น ควบคู่ไปกับการเรียน ไม่ต้องรอให้เด็กจบปี 4 แล้วออกมาทำงาน อาจจะนานเกินไป เนื่องจากขณะนี้รัฐบาลสนับสนุนงบประมาณเพื่อพัฒนากำลังคน และเพิ่มเงินให้กับบีโอไอ เพื่อส่งเสริมการลงทุนทางด้านดิจิทัลแล้ว ซี่งสามารถดำเนินการได้ทันที” นายกฯ กล่าว