เฟดเอ็กซ์ คอร์เปอเรชั่น (Federal Express Corporation) หนึ่งในบริษัทขนส่งด่วนขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เปิดตัวศูนย์กระจายสินค้าและให้บริการแห่งใหม่ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ในพื้นที่แหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ครอบคลุมพื้นที่กว่า 4,900 ตารางเมตร โดยการขยายศูนย์บริการในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการรองรับความต้องการของธุรกิจนำเข้าและส่งออกในพื้นที่ EEC ที่มุ่งพัฒนาธุรกิจสู่ตลาดสากล
ศูนย์บริการแห่งนี้มีขนาดใหญ่ขึ้นเกือบ 4 เท่าของขนาดเดิม พร้อมเทคโนโลยีการจัดการพัสดุขั้นสูง และระบบการคัดแยก ที่สามารถคัดแยกพัสดุได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดถึง 3,000 ชิ้นต่อชั่วโมง รวมถึงคลังสินค้าขนาด 4,560 ตารางเมตร เพื่อรองรับการขนส่งหลากหลายรูปแบบที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการโซลูชันการขนส่งสินค้าหลายรูปแบบ และบริการที่สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งทางเครื่องบิน ทางเรือ และทางรถที่ร่วมกับ เฟดเอ็กซ์ โลจิสติกส์ เพื่อรองรับภาคอุตสาหกรรมในการจัดการการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่หรือมีน้ำหนักมาก ศูนย์บริการแห่งนี้พร้อมนำเสนอบริการเสริมด้านโลจิสติกส์อย่างครบวงจร ประกอบด้วย บริการเหมารถสำหรับเข้ารับสินค้า/นำส่งสินค้า, บริการตีลังไม้,บริการรมยา (Fumigation) และ บริการจัดเรียงสินค้าบนพาเลท (ขนาดมาตรฐาน หน่วยลูกบาศก์เมตร), บริการช่วยเหลือ ณ สถานที่ของลูกค้า (On-dock Support), บริการจัดส่งสินค้าอันตรายแบบครบวงจร รวมถึงบริการการจัดการพิเศษอื่นๆ
ศศธร ภาสภิญโญ กรรมการผู้จัดการ เฟดเอ็กซ์ ประเทศไทย กล่าวว่า การขยายศูนย์บริการ EEC ของเฟดเอ็กซ์ในครั้งนี้สะท้อนถึงความตั้งใจในการสนับสนุนการเติบโตของลูกค้าและตอบโจทย์ความต้องการด้านโลจิสติกส์ที่เปลี่ยนแปลง โดยศูนย์แห่งนี้สามารถคัดแยกวัสดุได้สูงสุดถึง 3,000 ชิ้นต่อชั่วโมง และได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับการจัดการการส่งออกและนำเข้าทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นพัสดุขนาดเล็กอย่างเอกสาร หรือพัสดุขนาดใหญ่ เช่น ม้าและแพนด้า เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า โดยเฉพาะในเขต EEC ซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และเซมิคอนดักเตอร์
ตลอดเวลากว่า 40 ปีที่เฟดเอ็กซ์ดำเนินการในประเทศไทย บริษัทตระหนักถึงศักยภาพของประเทศในฐานะศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การเปิดศูนย์บริการใหม่ครั้งนี้สะท้อนถึงความมั่นใจและความเชื่อมั่นของเฟดเอ็กซ์ต่อประเทศไทย พร้อมทั้งช่วยเสริมศักยภาพให้กับธุรกิจทุกขนาด นอกจากนี้ บริษัทยังมีบริการที่สามารถปรับแต่งให้เหมาะกับความต้องการของลูกค้า (custom service) เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงตลาดและนำเสนอโซลูชันโลจิสติกส์ที่ทันสมัย รวมถึงการเป็นศูนย์กลางการจัดส่งที่เชื่อถือได้ พร้อมโซลูชันดิจิทัลอัจฉริยะที่จะช่วยให้ลูกค้าสร้างโอกาสทางการค้าและขยายธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้านความยั่งยืน เฟดเอ็กซ์ได้นำยานยนต์ไฟฟ้าประมาณ 10 คันมาใช้สนับสนุนการดำเนินงานภายในศูนย์บริการ รวมถึงใช้ไฟ LED ที่ประหยัดพลังงาน 100% ในพื้นที่คลังสินค้าและสำนักงาน โดยบริษัทตั้งเป้าหมายพัฒนา EV ให้ได้ 100% ภายในปี 2030 และมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2040 นอกจากนี้ อุปกรณ์ต่างๆ ในโรงงานยังถูกเปลี่ยนเป็นระบบไฟฟ้าทั้งหมด และยังให้ความสำคัญกับการจัดการขยะจากวัสดุบรรจุภัณฑ์ เช่น เศษไม้และพลาสติกที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้ โดยร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ท้องถิ่นในการแปลงขยะเหล่านี้ให้เป็นพลังงาน
“ในอนาคตเฟดเอ็กซ์มีแผนขยายตลาดด้าน HealthCare ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ในหลายประเทศ โดยเน้นการขนส่งตัวอย่างเลือด ตัวอย่างเนื้อเยื่อ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ เพื่อรองรับความต้องการของภาคการแพทย์และสาธารณสุขที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง” ศศธร กล่าว
อดิศักดิ์ ผุงประเสริฐยิ่ง ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายปฏิบัติการ กล่าวเสริมว่า บริษัทได้นำชุดยูนิฟอร์มพนักงานที่ไม่ได้ใช้แล้วมารีไซเคิลเป็นหมวกเพื่อแจกลูกค้า นอกจากนี้ ในการขนส่งวัตถุอันตราย เฟดเอ็กซ์ได้ปฏิบัติตามกฎหมายสากลอย่างเคร่งครัด โดยมีพาร์ทเนอร์ ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาดูแลและควบคุมการดำเนินงานทั้งหมด พร้อมทั้งมีพนักงานที่ผ่านการฝึกอบรมเฉพาะด้าน
ทั้งนี้ เฟดเอ็กซ์คาดว่าศูนย์บริการแห่งใหม่จะเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันการเติบโตและการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ซึ่งคิดเป็น 15.5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศไทย (GDP) โดยมีเป้าหมายดึงดูดการลงทุนใหม่มูลค่า 5 แสนล้านบาท พร้อมทั้งเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (GPP) ให้เติบโต 6.3% ระหว่างปี 2566-2570 โดยมุ่งหวังที่จะยกระดับภาคตะวันออกของประเทศไทยให้กลายเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมที่ทันสมัย ขับเคลื่อนการลงทุน และเร่งอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์เศรษฐกิจ Thailand 4.0 โดยครอบคลุมพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง อีกทั้งยังเป็นทำเลยุทธศาสตร์ในการส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมที่หลากหลาย เช่น การบิน ยานยนต์ เทคโนโลยีชีวภาพ และอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ การขยายศูนย์บริการสาขาแหลมฉบัง จ.ชลบุรี จะช่วยสนับสนุนการเติบโตต่อและสร้างโอกาสทางธุรกิจทั้งสำหรับธุรกิจขนาดกลาง ขนาดย่อม (SME) และธุรกิจข้ามชาติได้อย่างรวดเร็ว