มติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เห็นชอบคงราคาดีเซลที่ลิตรละ 34.94 บาท โดยเป็นการตรึงราคาต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 5 เพื่อช่วยลดผลกระทบค่าครองชีพประชาชน ขณะที่ฐานะกองทุนน้ำมันฯ ล่าสุดติดลบกว่า 1.1 แสนล้านบาท
นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้พิจารณาทบทวนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลประจำสัปดาห์ โดยที่ประชุมฯ มีมติให้คงราคาน้ำมันดีเซลไว้ที่ลิตรละ 34.94 บาท โดยเป็นการตรึงราคาต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 5 ทั้งนี้เพื่อมีส่วนช่วยลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชน
สัปดาห์ที่ผ่านมา สถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซล (GAS OIL) ลดลง 6.44 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล โดยเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2565 ราคา GAS OIL อยู่ที่ 142.56 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และลดลงเป็น 136.12 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2565 เนื่องมาจากปัจจัยความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มเข้าสู่ภาวะถดถอยอัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้นค่อนข้างเร็วและธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลกเริ่มดำเนินนโยบายการเงินแบบเข้มงวดส่งผลกดดันต่อความต้องการใช้น้ำมัน
นอกจากนี้ยังมีความวิตกต่อสถานการณ์ในเมืองเซี่ยงไฮ้ของประเทศจีนที่พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ย่อยตัวใหม่เพราะหากระบาดรุนแรงอาจมีมาตรการล็อกดาวน์ขึ้นอีกประกอบกับ ดัชนีราคาผู้บริโภคของสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาอยู่ที่ 9.1% ในเดือนมิถุนายนธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด จึงยังคงนโยบายขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปลายเดือนนี้ตามที่ประกาศมาแล้วก่อนหน้า
ทั้งนี้ มติคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2565 ได้ออกมาตรการลดค่าครองชีพให้กับประชาชนรอบใหม่ โดยในส่วนของราคาน้ำมันดีเซลมีมาตรการอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซล 50% ในส่วนที่ราคาขายสูงกว่า 35 บาทต่อลิตร เป็นเวลา 3 เดือน (กรกฎาคม-กันยายน 2565)
สำหรับประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 17 ก.ค.2565 ติดลบ 112,935 ล้านบาท ซึ่งเป็นการติดลบในอัตราที่น้อยลงจากก่อนหน้านี้ แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 74,162 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 38,773 ล้านบาท