รมว.พลังงาน เปิดเผยผลการประชุม กบง. มีมติรับทราบร่างแผนก๊าซ 20 ปี ภายใต้แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ 20 ปี หรือ PDP 2018 (พีดีพี 2018) โดยได้ระบุถึงทิศทางค่าไฟฟ้าของไทยตั้งแต่ปี 2565 จะถูกลง 15 สตางค์/หน่วย เนื่องจาก ปตท.สผ. ซึ่งชนะการประมูล 2 แหล่งก๊าซในอ่าวไทยคือบงกชและเอราวัณ เสนอราคาก๊าซที่ถูกลงทำให้ค่าไฟที่ประชาชนต้องจ่ายถูกลงด้วย
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า ที่ประชุม กบง. มีมติรับร่างแผนก๊าซ 20 ปี (Gas Plan) ภายใต้แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ 20 ปี PDP 2018 (พีดีพี 2018) โดยแผนก๊าซได้ระบุถึงทิศทางค่าไฟฟ้าของประเทศ โดยตั้งแต่ปี 2565 ค่าไฟฟ้าจะถูกลง 15 สตางค์ต่อหน่วย จากราคาปัจจุบันที่ค่าไฟฟ้าฐานอยู่ที่ 3.62 บาทต่อหน่วย เนื่องจากในช่วงปีดังกล่ว ทาง ปตท.สผ. ที่ชนะประมูลแหล่งก๊าซธรรมชาติ 2 แห่ง คือ บงกช และเอราวัณ จะได้รับสิทธิ์ผลิตก๊าซธรรม ซึ่ง ปตท.สผ. ได้เสนอราคาก๊าซที่ถูกลง ซึ่งจะทำให้ค่าไฟฟ้าที่ประชาชนต้องจ่ายถูกลงด้วย นอกจากนี้แล้ว ค่าไฟฟ้าที่ถูกลงยังจะมาจากการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนต่างๆ ด้วย อาทิ การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นต้น
สำหรับรายละเอียดแผนก๊าซธรรมชาติ 20 ปี ยังกำหนดให้ปลายแผน คือ ปี 2580 ประเทศไทยจะใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับการผลิตไฟฟ้าเพียง 28% จากปริมาณเชื้อเพลิงที่ใช้ทั้งหมด โดยคิดเป็น 5,500 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน จากปัจจุบันที่มีการใช้ก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้าสูงถึง 62% ของปริมาณเชื้อเพลิงทั้งหมด ซึ่งคิดเป็น 5,000 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ซึ่งผลิตได้จากอ่าวไทย แหล่งบนบก และบางส่วนนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน