16 กรกฎาคม 2567 – ฮ่องกงและไทยมีความสัมพันธ์อันดีทางการค้าทวิภาคีที่แข็งแกร่งในด้านผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพื่อส่งเสริมข้อได้เปรียบทางธุรกิจของฮ่องกง องค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (HKTDC) ยังมีส่วนร่วมในสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับองค์กรทั่วโลกอีกด้วย
เวียน เชิง ผู้อำนวยการประจำประเทศไทยและเอเชียใต้ ขององค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง ได้แจ้งว่าในเดือนกันยายน – พฤศจิกายนที่จะถึงนี้จะมีการจัดงานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ในฮ่องกง เพื่อเสนอแพลตฟอร์มในรูปแบบหลากหลายเพื่อเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจไปสู่ตลาดใหม่ๆสำหรับผู้ค้าและซัพพลายเออร์จากประเทศไทย รวมทั้งสิ้น 4 งาน ได้แก่
- HKTDC Hong Kong Watch & Clock Fair วันที่ 3 – 7 กันยายน 2567
- Salon de TIME วันที่ 3 – 7 กันยายน 2567
- CENTRESTAGE วันที่ 4 – 7 กันยายน 2567
- HKTDC Hong Kong International Optical Fair วันที่ 6 – 8 พฤศจิกายน 2567
ในปีที่ผ่านมา เราจัดงานแสดงสินค้าถึง 40 งาน มีผู้จัดแสดงสินค้าเข้าร่วมงานกว่า 22,000 ราย รวมไปถึงผู้ซื้อและผู้เข้าร่วมงานกว่า 430,000 รายจากฮ่องกง จีนแผ่นดินใหญ่ และประเทศอื่นๆจากทั่วทุกมุมโลก คุณเวียน เชิง กล่าวว่า “จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวของฮ่องกงในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2566 พวกเราได้เห็นถึงการกลับมาอย่างล้นหลามของผู้จัดแสดงและผู้ค้า เป็นเครื่องการันตีได้ว่าฮ่องกงนั้นเป็นผู้นำด้านธุรกิจและการลงทุน” นอกจากนี้ เธอยังหวังว่าจะได้มีโอกาสจับมือกับองค์กรและบริษัทต่างๆจากประเทศไทย ในการแสวงหาโอกาสทางธุรกิจร่วมกันเพื่อก้าวสู่ตลาดโลกผ่านงานจัดแสดงโดยองค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (HKTDC) อีกทั้งยังสนับสนุนการจัดหาทรัพยากรต่างๆในฮ่องกงให้กับลูกค้า ผู้กระจายสินค้า และผู้ค้าปลีกจากประเทศไทย
ประเทศไทยเป็นคู่ค้าที่สำคัญลำดับที่ 10 ของฮ่องกง จากรายงานในปี 2566 มูลค่าของการซื้อขายระหว่างสองประเทศนั้นได้พุ่งสูงถึง 19.2 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ อีกทั้งไทยยังเป็นตลาดส่งออกหลักลำดับที่ 12 ของฮ่องกง ด้วยมูลค่าของการส่งออกทั้งสิ้น 8.3 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ และเป็นแหล่งนำเข้าทรัพยากรลำดับที่ 9 ด้วยมูลค่าการนำเข้าสินค้าทั้งสิ้น 10.9 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ
งานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ฤดูใบไม้ร่วงปี 2567
HKTDC Hong Kong Watch & Clock Fair
Salon de TIME
ศูนย์ประชุมและนิทรรศการฮ่องกง วันที่ 3 – 7 กันยายน 2567
ช่องทางออนไลน์ Click2Match วันที่ 27 สิงหาคม – 14 กันยายน 2567
เว็บไซต์งาน :
www.hktdc.com/hkwatchfair
www.hktdc.com/hkwatchfair/te
งานแสดงสินค้าประเภทนาฬิกา (Hong Kong Watch & Clock Fair) และงาน Salon de TIME จะจัดขึ้น ณ ศูนย์การประชุมและนิทรรศการฮ่องกง (HKCEC) ระหว่างวันที่ 3 – 7 กันยายน 2567 ภายใต้รูปแบบ EXHIBITION+ ที่ผสมผสานทั้งงานออฟไลน์และออนไลน์บนแพลตฟอร์ม “Click2Match” ระหว่างวันที่ 27 – 14 กันยายน เพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อให้กับผู้ค้า
Pageant of Eternity จัดแสดงสินค้านาฬิกาข้อมือสุดหรูที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และในส่วนงานจัดแสดงอื่นๆนั้นประกอบไปด้วย นาฬิกาข้อมือสมบูรณ์แบบ, นาฬิกาข้อมือมือสอง, นาฬิกาแขวนผนัง, เครื่องจักรและอุปกรณ์, บริการรับผลิตนาฬิกาอัจฉริยะ, บรรจุภัณฑ์, ชิ้นส่วนและส่วนประกอบต่างๆ และการบริการด้านการค้า
งาน Salon de TIME จัดแสดงแบรนด์นาฬิกาที่มีชื่อเสียงไว้ราว 130 รายและจัดแสดงดีไซน์เนอร์คอลเลคชั่นในธีมต่างๆอีก 5 ธีม มีดาวเด่นของงานคือโซน World Brand Piazza มาในธีมนาฬิกาหายากและมีจำนวนจำกัดจากแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักทั่วโลก โซน Chic & Trendyเป็นธีมนาฬิกาที่มีความทันสมัยและมีสไตล์ โซน Craft Treasure มาพร้อมกับนาฬิกาไขลานและนาฬิกาข้อมือประดับด้วยอัญมณีต่างๆที่มีความประณีตงดงาม โซน Renaissance Moment พาย้อนเวลาไปกับธีมยุโรปดั้งเดิม โซน Wearable Tech เรียงรายไปด้วยนาฬิกาอัจฉริยะที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย โดยงานงาน Salon de TIMEนี้เปิดให้เข้าชมทั้งห้างร้านและผู้เข้าชมทั่วไป ในปี 2567 ที่ผ่านมางานนี้สามารถรวบรวมผู้จัดแสดงได้มากกว่า 700 รายและผู้จัดซื้อมากกว่า 17,000 ราย
เรื่องราวความสำเร็จของปี 2566
ผู้ซื้อ
คุณเฮนดรา เคซูมา
ประธานกรรมการบริหารจาก Radatime
จากประเทศอินโดนีเซีย
“Radatime คือร้านค้าออนไลน์จากอินโดนีเซีย ก่อตั้งขึ้นในปี 2009 จัดจำหน่ายนาฬิกาข้อมือแฟชั่นในราคากลางและนาฬิกาข้อมือสำหรับใส่เล่นกีฬา จากการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าประเภทนาฬิกาและงาน Salon de TIME ที่ผ่านมา ทำให้พวกเรานั้นสามารถเข้าถึงนาฬิกาข้อมือได้ทุกรูปแบบในงานเดียว ในปี 2023 พวกเราได้พบซัพพลายเออร์จากฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่ราว 10 – 15 ราย จากนั้น เราก็ทำการสั่งซื้อนาฬิกาข้อมือต่างๆจากพวกเขาประมาณ 1 – 2 ราย โดยในแต่ละครั้งมีมูลค่าประมาณ 10,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ และจากฟังก์ชั่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวอย่าง Scan2Match ช่วยพวกเราเก็บข้อมูลของผู้จัดแสดงที่เราให้ความสนใจในการติดตามต่อได้
CENTRESTAGE
ศูนย์ประชุมและนิทรรศการฮ่องกง วันที่ 4 – 7 กันยายน 2567
เว็บไซต์งาน: www.centrestage.com.hk
งานแสดงแฟชั่นชั้นนำของเอเชียในงาน CENTRESTAGE จะจัดขึ้นที่ศูนย์ประชุมและนิทรรศการฮ่องกง ตั้งแต่วันที่ 4 – 7 กันยายน โดยองค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง(HKTDC) ร่วมกับ Create Hong Kong (CreateHK) โดยมีคณะรัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกง (HKSAR) เป็นผู้สนับสนุนหลัก
งานอีเวนท์ 4 วันนี้จะจัดแสดงแบรนด์ต่างๆมากกว่า 200 แบรนด์และจะเปิดให้เข้าชมทั้งผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมนั้นๆ และผู้ชมทั่วไปที่สนใจ
เพื่อให้ทันกับกระแสแฟชั่นที่เปลี่ยนอย่างรวดเร็ว งาน CENTRESTAGE ไม่เพียงแต่จัดแสดงเสื้อผ้าแฟชั่นที่ยั่งยืน แต่ยังจัดแสดงเสื้อผ้ากีฬาแบบใหม่ล่าสุดที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากศิลปะและวัฒนธรรมอีกด้วย นอกจากนี้ยังแสดงความล้ำสมัยทั้งด้านแนวคิดการออกแบบ และแสดงความก้าวหน้าในอุตสาหกรรมแฟชั่น
นอกจากนี้ ในโซนของ CENTRESTAGE ELITES มหกรรมแฟชั่นประจำปีที่ทุกคนรอคอย โซนที่จัดแสดงรังสรรค์ผลงานอันน่าอัศจรรย์ใจจากนักออกแบบที่มีชื่อเสียง การแสดงเปิดงานที่มีความน่าหลงใหลเป็นอย่างยิ่ง โดยงานแสดงส่วนนี้จะถูกจัดอย่างเป็นทางการในช่วงเย็นของวันที่ 3 กันยายน
งานแฟชั่นโชว์ Fashion Hong Kong Runway Show จะทำการจัดแสดงในวันเปิดงานที่ 4 กันยายน โดยจะทำการโชว์ผลงานงานนักออกแบบชื่อดังหลากหลายท่านจากแบรนด์ฮ่องกงที่ได้รับการคัดสรร
นอกเหนือจากการแสดงแฟชั่นโชว์ที่น่าดึงดูดใจแล้ว ยังมีการสัมมนาหลากหลาย โดยผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม เพื่อเจาะลึกถึงแนวโน้มและข้อมูลเชิงลึกล่าสุดของแวดวงอุตสาหกรรมแฟชั่นอีกด้วย ในปี 2566 งานจัดแสดงนี้สามารถดึงดูดผู้จัดซื้อเข้ามาเยี่ยมชมและซื้อสินค้าได้มากกว่า 7,700 รายจาก 78 ประเทศและภูมิภาคต่างๆ
เรื่องราวความสำเร็จของปี 2566
ผู้ซื้อ
คุณรัมภามาศ วิวัฒน์วิศวกร
ผู้จัดการฝ่ายอาวุโส แผนกเสื้อผ้าสตรี จากเดอะ มอลล์ กรุ๊ป
ประเทศไทย
“ฉันได้เจอแบรนด์เสื้อผ้าใหม่อีก 3 แบรนด์ มาจากฮ่องกง 2 รายและเกาหลี 1 ราย ผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าพร้อมใส่นั้นมีดีไซน์ที่ค่อนข้างดีทีเดียว เลยคิดว่าจะติดต่อผ่านผู้จัดจำหน่ายสินค้าไปหาทางโรงงานโดยตรง ถ้าพวกเขาสามารถตอบรับข้อเสนอได้ ฉันก็จะเสนอพื้นที่ส่วนนึงของห้างให้ในการวางขายสินค้า ที่งาน CENTRESTAGE นี้ ฉันได้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีไว้มากมาย ตอนที่มาที่งาน ฉันรู้สึกประหลาดใจมากที่ฉันสามารถที่จะสร้างโอกาสในการร่วมงานกับซัพพลายเออร์ต่างๆที่มาจากไทยได้ เช่น การตั้งร้าน pop up stores เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้เข้าร่วมการประชุมจำนวน 7 งาน และยังค้นพบแบรนด์ที่สามารถร่วมงานกันได้ในอนาคตอีก 4 แบรนด์ โดยมี 3 แบรนด์จากฮ่องกงและอีก 1 แบรนด์จากเกาหลี”
HKTDC Hong Kong International Optical Fair
ศูนย์ประชุมและนิทรรศการฮ่องกง วันที่ 6 – 8 พฤศจิกายน 2567
ช่องทางออนไลน์ Click2Match วันที่ 30 ตุลาคม – 15 พฤศจิกายน 2567
เว็บไซต์งาน : hkopticalfair.hktdc.com
งานแสดงสินค้าประเภทแว่นตานานาชาติฮ่องกง Hong Kong International Optical Fair ครั้งที่ 32 จัดโดยองค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง(HKTDC) ในวันที่ 6 – 8 พฤศจิกายน 2024 ที่ศูนย์ประชุมและนิทรรศการฮ่องกง พร้อมกับรูปแบบ EXHIBITION+ เพราะเปิดให้เข้าชมทั้งออฟไลน์และทางClick2Match แพลตฟอร์มอัจฉริยะสำหรับธุรกิจ ในวันที่ 30 ตุลาคม – 15 พฤศจิกายน เป็นการจัดอำนวนความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับผู้ค้าในการติดต่อ
ไฮไลท์ของงานนี้ก็คือ โซน Brand Name Gallery รวบรวมแบรนด์แว่นตาชื่อดังจากทั่วทุกมุมโลกไว้ อาทิ แอนน์ มารีย์ (ANNE MARII), คลาสสิโก (CLASSICO), มินิมาร์ (MINIMA), เซรอวาร์ (SEROVA), เอสเต ดูปองต์ สเต็ปเปอร์ (ST DUPONT STEPPER), ออล เซนต์ (All SAINTS), แอนนา ซวี (ANNA SUI), โบลอง (BOLON) , โมเรล (MOREL), นาตูลา(Natura), พาริม (PARIM), พลูม พีเพิล เลิฟ มี (PLUME PEOPLE LUV ME), รีบอก (REEBOK), โรซี แอลลัน (ROSIE ALLAN), สก็อตซ์ แอนด์ โซดา (SCOTCH AND SODA), โซลาโน (SOLANO), เท็ด เบคเกอร์ (TED BAKER), วิเวียน เวสต์วูด (VIVIENNE WESTWOOD)
ในโซนอื่นๆ ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์แว่นตาหลายรูปแบบเพื่อการค้นหาที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น ประกอบไปด้วย แว่นตาอัจฉริยะ คอนแทคเลนส์ และอุปกรณ์เสริม, คาเฟ่ของนักออกแบบ แว่นตาสำหรับการนักกีฬาและมืออาชีพ แว่นตาสำหรับเด็กและการอ่านหนังสือ กรอบแว่น เลนส์และส่วนประกอบต่างๆ อุปกรณ์เสริมสำหรับแว่นตา รวมไปถึงเครื่องมือทัศนมาตรที่ใช้ในการวิเคราะห์ การวัด อุปกรณ์ และเครื่องจักรต่างๆ จากรายงานปี 2566 งานแสดงสินค้านี้สามารถดึงดูดผู้จัดแสดงสินค้าไว้ราวๆ 700 รายและผู้จัดซื้ออีกกว่า 13,000 รายจาก 92 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก
เรื่องราวความสำเร็จของปี 2566
ผู้ซื้อ
คุณวีรภัทร ชวลิตมณเฑียร
หัวหน้าฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์จากบริษัทจำกัด Vision Ventures
ประเทศไทย
“บริษัท Vision Ventures เป็นบริษัทประเภทผู้ถือหุ้นจากประเทศไทยซึ่งมี 5 สาขาย่อย ได้แก่ สาขาที่จัดจำหน่ายแบบค้าส่ง 2 สาขา และอีก 3 สาขาเป็นกิจการร้านแว่นตา เนื่องจากเป้าหมายธุรกิจของเราคือการเข้าถึงลูกค้าได้ทุกกลุ่ม ทำให้ผมมาที่นี่เผื่อเสาะหาแว่นตาประเภทต่างๆ ตั้งแต่แว่นตาราคาประหยัดไปถึงแว่นตาสุดหรู รวมไปถึงเทคโนโลยีใหม่ๆอีกด้วย ผมไปพบกับผู้ประกอบการอีก 3 รายที่น่าสนใจผ่านการประชุมธุรกิจบนแพลตฟอร์ม Click2Match ผมสนใจที่จะซื้อสินค้าใหม่ๆ เช่น ระบบ AI ในนาฬิกาข้อมืออัจฉริยะ และกระเป๋าหรือกล่องแว่นตาที่ทำจากวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยจำนวนการสั่งซื้อขั้นต่ำ คือ 1,000 ชิ้น ผมได้รวบรวมแคตตาล็อกของซัพพลายเออร์ไว้แล้วและจะปรึกษาทีมจัดซื้อหลังจบงาน”
ลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมงานที่สนใจตอนนี้ เพื่อรับ e-badge สำหรับเข้างานฟรี: https://bit.ly/4cMSlxY