ระยะนี้ ไข้หวัดใหญ่กับโรคโควิดยังคงสร้างปัญหาระบาดหนักอยู่ทั่วไปในประเทศ แต่สื่อออกข่าวกันไม่มาก ประชาชนมักมีคำถามสงสัยว่า 2 โรคนี้มีอาการคล้ายคลึงกันมาก จนแยกไม่ออกว่า การเจ็บป่วยนั้นเป็นไข้หวัดใหญ่หรือโควิดกันแน่ และมีวิธีป้องกันและสังเกตอาการที่เป็นที่จะจำแนกแยกโรคได้ เพื่อการรักษาที่ถูกต้อง
ไข้หวัดใหญ่เป็นโรคที่เรารู้จักกันดี ปัจจุบันมีวัคซีนที่ฉีดป้องกันโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกับโรคโควิด วัคซีนที่ฉีดป้องกันโรคยังไม่ชัดเจน และมีผลข้างเคียงมากมาย ถึงแม้จะฉีดไปแล้วหลายเข็มก็ตาม จนมีรายงานทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ถึงประสิทธิภาพที่ยังคลุมเครืออยู่ คงต้องระมัดระวังและสังเกตอาการที่เป็นอยู่
ไข้หวัดใหญ่ส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อหวัดในตระกูลไวรัส เชื้ออินฟลูเอนซา (INFLUENZA) เมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกายแล้วทำให้มีไข้หรือไม่มีไข้ อาจมีไข้ต่ำๆ (37.5°C) จนถึงไข้ขึ้นสูง (39°C) เมื่อยตัวตามกล้ามเนื้อต่างๆ ทั่วร่างกาย ตั้งแต่ท้ายทอย หลัง บั้นเอว สะโพก รวมถึงแขน-ขา อ่อนเพลีย มีน้ำมูก และอาจมีไอ จามได้ การหายใจยังไม่ถึงขั้นหอบเหนื่อย นอกจากนี้อาจมีอาการเจ็บลำคอร่วมด้วย เบื่ออาหาร รับประทานอาหารไม่อร่อย การรับรู้รสชาติและกลิ่นของอาหารลดลง เมื่อได้พักผ่อนเต็มที่ ดื่มน้ำให้มาก รับประทานยาแก้หวัดทั่วไปที่แก้ตามอาการ ลดน้ำมูก ยาแก้ไอ ยาลดไข้ อาจรับประทานยาปฏิชีวนะแก้เรื่องเจ็บในลำคอ อาการของไข้หวัดใหญ่สามารถฟื้นตัวดีขึ้น สงบลงจนหายเป็นปกติได้
ส่วนอาการของโรคโควิดที่เกิดจากเชื้อโควิดสายพันธุ์ต่างๆ โดยเฉพาะสายพันธุ์ที่พบในปัจจุบันอาจไม่มีไข้ มีผื่นคันขึ้นตามตัว ตาแดง และมีน้ำมูก อ่อนเพลียในช่วง 3-4 วันแรกหลังจากเชื้อมักกระจายเข้าหลอดลมและปอด ทำให้หายใจลำบาก เหนื่อยหอบ แน่นหน้าอกอาการรุนแรงถึงขั้นต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล หากอาการวิกฤตมากขึ้น ผู้ป่วยหายใจลำบาก อาจต้องรักษาในห้องผู้ป่วยหนัก (I.C.U.) และใช้เครื่องช่วยหายใจ เนื่องจากปอดติดเชื้อโควิด จนปอดสูญเสียหน้าที่การหายใจ ปริมาณออกซิเจนในเลือดต่ำลง หากแก้สถานการณ์วิกฤตนี้ไม่ได้ ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ ดังนั้นข้อแตกต่างของไข้หวัดใหญ่กับโรคโควิด ดูความรุนแรงของอาการ หากมีอาการอ่อนเพลียรุนแรงและหายใจลำบาก เหนื่อยมาก น่าสงสัยว่าเป็นโรคโควิด ต้องรีบไปโรงพยาบาล แต่หากอาการไม่รุนแรง เป็นหวัดธรรมดาทั่วไป เน้นการพักผ่อนดูแล อาหารและน้ำดื่ม ยาแก้ตามอาการ ไม่นานหายเป็นปกติได้
การป้องกันที่ยังต้องปฏิบัติอยู่ 3 ข้อ
1.) สวมหน้ากากอนามัย
2.) หมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์
3.) หลีกเลี่ยงที่ที่มีคนหนาแน่น ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
ที่มา: หมอโฆษิต